สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่าสภาที่ปรึกษาสูงสุดแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยเจ้าผู้ครองรัฐทั้ง 7 แห่งของยูเออี มีมติเมื่อวันเสาร์ ให้สถาปนา ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน พระชนมพรรษา 61 พรรษา มกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี และประธานาธิบดีแห่งยูเออีพระองค์ใหม่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน พระเชษฐาในชีค โมฮัมเหม็ด เสด็จสวรรคต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะทรงมีพระชนมพรรษา 73 พรรษา
ด้านชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล-มัคทูม รองประธานาธิบดี และเจ้าผู้ครองนครดูไบ เผยแพร่แถลงการณ์ ถวายพระพรแด่ประมุขพระองค์ใหม่ และทรงแสดงความเชื่อมั่นว่า ยูเออีจะเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ภายใต้รัชสมัยของชีค โมฮัมเหม็ด
ทั้งนี้ การสถาปนาชีค โมฮัมเหม็ด ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมายมากนัก เนื่องจากในระยะหลัง พระองค์ทรงถือได้ว่าเป็น “ผู้นำโดยพฤตินัย” ของยูเออีอยู่แล้ว โดยพระองค์ทรงปรับเปลี่ยนจุดยืนของยูเออีในหลายด้าน ชัดเจนคือนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศ จากเดิมที่เป็น “สายเหยี่ยว” ให้มีความเป็น “สายพิราบ” มากขึ้น ส่งผลให้ยูเออีลดบทบาทแข็งกร้าวต่อสงครามในเยเมน แล้วหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการซ่อมแซมความสัมพันธ์กับประเทศที่เคยวางตัวเป็นปรปักษ์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นตุรกี อิหร่าน และซีเรีย
การปรับเปลี่ยนท่าทีเหล่านี้สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้แก่สหรัฐ ซึ่งต้องการโน้มน้าวให้โลกตะวันออกกลางสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลวอชิงตัน ในการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย จากกรณีสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม ยูเออี ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกคือส่วนหนึ่ง “อันเหนียวแน่น” ของ “โอเปกพลัส”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
