จัดอีกหนึ่งหญิงแกร่งของวงการบันเทิง ที่เจอมรสุมชีวิตสารพัดโรครุมเร้าทั้ง โรคซึมเศร้า และ โรคมะเร็งไทรอยด์ แต่เธอก็ไม่ท้อแท้กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาสำหรับสาว นุ๊ก-สุทธิดา ที่มองชีวิตคิดบวก ตอบคำถามกับตัวเองเพื่อลุกขึ้นสู้กับปัญหาสุขภาพครั้งใหญ่ในชีวิต ล่าสุดพร้อมอัพเดทถึงโรคร้ายที่ทุกคนส่งกำลังใจให้เธอผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่มเพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและแรงบันดาลใจดีๆให้กับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพเช่นเธอ

นุ๊ก เผยว่า “เรื่องโรคมะเร็งก่อนหน้านี้มีกลืนแร่ เป็นขั้นตอนในการรักษา คล้ายๆกับการให้คีโม แต่การเป็นมะเร็งไทรอยด์ก็จะใช้วิธีการกลืนแร่อะไรแบบนี้ จริงๆอาการไม่มีอะไรเลยสำหรับมะเร็งไทรอยด์เหมือนคนปกติทั่วไป แต่ว่าเราจะสังเกตได้ว่ามีอะไรบวมๆออกมา เริ่มต้นนุ๊กอาจว่าระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี ไทรอยด์มันจะเป็นต่อม ต่อมนึงที่ส่งไปทั่วร่างกาย จะเป็นความกระตือรื้อล้น ระบบขับถ่าย ผิว ผม มันจะเกี่ยวกับไทรอยด์หมดเลย นุ๊กมารู้ว่าเมื่อก่อน 9 โมงพอดีปุ๊บเราจะขับถ่ายทุกวัน เป็นอย่างนี้มาตลอด 40 ปี ไม่เคยเลตเลย เรามาเริ่มรู้สึกว่าทำไมมันเลตไปชั่วโมงนึง มันจะเริ่มจากชั่วโมง สองชั่วโมง และก็เริ่มกลายเป็นหกชั่วโมงอะไรแบบนี้ เราก็เลยรู้สึกว่ามันผิดปกติ ก็เลยไปหาหมอ ไปส่องกล้อง ดูลำไส้อะไรแบบนี้ พอหาไม่เจอไปปีกว่าๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนมันโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และเพื่อนที่เป็นหมอก็ทักว่าลองไปตรวจดูหน่อยไหม”

“ตอนนี้นุ๊กก็ตัดไทรอยด์ทั้งหมด เพราะมันล่ามไปทั่วไทรอยด์แล้ว ไม่สามารถรักษาต่อมไทรอยด์ไว้ได้แล้ว ก็ต้องตัดทิ้งทั้งหมดและก็มีล่ามไปที่ต่อมน้ำเหลืองประมาณ 10 กว่าจุด คุณหมอก็พยายามสอยออกให้หมด แต่ว่ามะเร็งเล็กๆน้อยๆมันอาจจะมีอยู่หลงเหลืออยู่ แต่ว่าเราก็จะใช้วิธีตรวจเลือดทุก 3 เดือน หาคุณหมอทุก 3 เดือน และทุกปีก็จะพยายามส่องกล้องทุกปีว่าที่หลงเหลืออยู่มันโตขึ้นไหม และโตในภาวะที่ควมคุมได้ไหมคุณหมอก็บอกว่ามันอาจจะโตขึ้นนิดนึง ยังอยู่ในจุดที่คุณหมอยังควบคุมได้ เรื่องที่กังวลคือกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายหรอคะ (หัวเราะ) ทั้งหมดทั้งมวล เฉพาะในเรื่องของมะเร็งเลยนะคะ นุ๊กว่านาทีแรกที่เรารู้อะ อาจจะตกใจนิดนึง เพราะว่านุ๊กอาจจะรู้เร็วด้วยไม่ได้เตรียมใจไป เหมือนกับเราอะมีเพื่อนเป็นหมอ เพื่อนแนะนำว่าคุณหมอท่านนี้เก่งมากเลย ให้ไปหาหมอ ท่านสามารถส่องกล้องแล้วแบบว่าจะรู้เลย ไปถึงเขาก็ทักทายคุยเล่น แต่ส่องไปปุ๊บเขาก็เงียบ ซึ่งเรารู้นาทีนั้นเลยว่ากระบวนการของการไปตรวจเป็นยังไง เจอปุ๊บเอาไปตรวจ ถ้าใช่ต้องมาร์คจุด นัดเสร็จเจาะคอ เอาชิ้นเนื้อไปตรวจ คือกระบวนการมันนานมาก หลักเดือน นาทีนั้นมันวูบเลย ลูกจะอยู่ยังไง พี่น้องจะอยู่ยังไง เพราะเขาคนละพ่อ ถ้าเราเสียไปสามีต้องกลับมาเลย์ หลายร้อยพันเรื่องเลย งานที่ถ่ายไว้จะทำต่อจนจบไหม คือมันคิดเยอะค่ะ”

นุ๊ก เล่าต่อว่า “เรื่องมะเร็งนุ๊กตั้งหลักได้ก็ระหว่างที่นอนแหละค่ะ ก็เห็นตัวเองอะค่ะว่า นี่..อีนุ๊ก พูดกับตัวเอง นี่แกกำลังแพนิคนะเนี้ย ถ้าแกเป็นแบบนี้แกจะตอบตัวเองไม่ได้ เอาอย่างนี้ฉันให้แก 5 คำถาม 5คำถามที่แกกลัวที่สุดแกลิสต์มา แล้วฉันจะตอบแก ก็ระหว่างนั้นหมอก็กำลังตรวจอยู่นะคะ 4 คำถามแรกก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกหมดแล้วค่ะ ความกังวลที่เราเกิดขึ้น จนคำถามสุดท้ายคือ ตอนลมหายใจสุดท้ายมันเจ็บไหม และเราก็ไล่ตอบมาว่าเราต้องทำยังไงกับชีวิต จนมาคำถามสุดท้ายที่ถามว่าเจ็บไหม เราจะได้ยินอยู่เสมอว่าจากไปอย่างสงบ ไม่เคยได้ยินว่าจากไปอย่างกระโตกกระตากเลย เคยได้ยินแต่จากไปอย่างสงบ มีคนรักมากมายรายล้อมนะ เราก็เลยรู้สึกว่าคนทุกคนก็ต้องเจอความตาย แต่ความตายที่เราเผชิญเป็นความตายที่ค่อนข้างสบาย ถ้าเราเลือกได้ก็น่าจะเป็นแบบนี้ 15 นาทีนั้นก็เลยคลายกังวล แต่ก็มี1-4 ที่เราต้องรีบกลับไปทำ เช่นเขียนพินัยกรรมอะไรแบบนี้”

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews