เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เวลา 10.30 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าปัจจุบันมีเยาวชนปละผู้คิดต่างถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จำนวนมาก ซึ่งเท่าที่ได้ข้อมูลปัจจุบันมีคดีที่อยู่ในชั้นศาล ชั้นอัยการ มากถึง 188 คดี และที่ผ่านมาเราไม่มีบรรทัดฐานในการดำเนินคดีมาตรา 112 ทั้งที่กฎหมายเขียนไว้ว่าจำเป็นต้องให้สิทธิผู้ที่ถูกกล่าวหา หากยังไม่มีคำตัดสินของศาลให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ในทางกลับกันยังเห็นการบังคับใช้มาตรา 112 โดยไม่มีมาตรฐาน แม้ยังไม่ขึ้นศาลก็ถูกตัดสิน ถูกติดกำไล EM เพื่อติดตามพฤติกรรม ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และศาล รวมถึงนักกจิกรรม นักเรียน และผู้ถูกดำเนินคดี เข้ามาพูดคุยหาทางออก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นพบว่าในส่วนของกระบวนการยุติธรรมได้ทำตามนโยบายของประธานศาลฎีกา ที่ให้เป็นดุลพินิจของผู้พิพากษาเอง ในการตัดสินคดีเหล่านี้เพื่อไม่ให้ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ต้องถูกคุมขังระหว่างดำเนินคดีจึงจำเป็นต้องติดกำไล EM แต่เมื่อ กมธ.ขอดูข้อกำหนด บรรทัดฐานหรือมาตรฐานในการตัดสินคดีเหล่านี้ทางอัยการและศาลไม่สามารถให้ดูได้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับทางราชการ

“ทาง กมธ.ได้ตั้งข้อสงสัยไว้หลายข้อว่า ทุกวันนี้หลายคดีที่เข้าสู่ชั้นอัยการถูกสั่งฟ้องด้วยดุลพินิจของอัยการ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานประจักษ์ แต่ใช้ดุลพินิจในการตัดสิน หลายคดีที่ขึ้นไปสู่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องในชั้นศาล ยังไม่มีการสืบพยานจนแน่ชัดว่าผู้ต้องหาผิดจริง แต่ถูกดำเนินคดีที่มีโทษค่อนข้างสูง หรือใช้วงเงินประกันตัวหลักแสน ทั้งที่คดีข่มขืน คดีล่วงละเมิด คดีฆาตกรรม กลับกลายเป็นว่าให้ถูกประกันตัวได้ในวงเงินที่ต่ำกว่า ทั้งที่การจงใจกระทำผิดชัดเจนและรุนแรงกว่า แต่ทุกวันนี้เพียงแค่เราตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน ก็สามารถถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ได้ง่ายๆ แม้คำถามนั้นจะไม่ได้เป็นการเหยียดหยาม ดูหมิ่น หรือดูถูกสถาบันเลยก็ตาม” 

นายกรุณพล กล่าวและว่าดังนั้นพรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมสร้างความโปร่งใสให้กับการดำเนินคดีมาตรา 112 และให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ถูกดำเนินคดีทั้ง 188 คดีที่อยู่ในชั้นศาลและชั้นอัยการ เพราะบรรทัดฐานในการดำเนินคดียังไม่มีบรรทัดฐาน แต่กลับกลายเป็นการใช้ดุลพินิจ จึงขอให้การดำเนินคดีมาตรา 112 ควรใช้ตัวบทกฎหมายแทนการใช้ดุลพินิจ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกดำเนินคดี ได้สิทธิในการประกันตัว ติดต่อทนาย ได้สิทธิไต่สวนมูลฟ้องไต่สวนพยานก่อนที่จะมีการคุมขัง.

ReplyReply allForward

/////