เมื่อวันที่ 16 พ.ค. น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 สังกัดพรรคไทยสร้างไทย ร่วมเวทีดีเบต “โค้งสุดท้าย ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.65 คนที่ 17 จะเป็นใคร?” ที่สยามพารากอนโดย น.ต.ศิธา เน้นย้ำถึงสิทธิมนุษยชนของคนพิการที่ถูกละเลยมาตลอดดังนั้นหน่วยงาน กทม.ต้องทำให้คนพิการเข้าถึงในการให้บริการของภาครัฐและส่งเสริมการสร้างงานที่ต้องมีโควตาในการรับคนพิการเข้ารับทำงานในหน่วยงาน กทม.ทุกแห่ง ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่วมอยู่ที่การบริหารจัดการของ กทม.ที่ปัจจุบันใช้งบฯไปแล้ว แสนกว่าล้านบาท ในการแก้ปัญหาแต่เกิดประสิทธิภาพเพียง 60% เท่านั้น ยืนยันตนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเป็น 90% ได้ทันที ด้วยกระบวนการใช้ประโยชน์จากคลองจำนวนมากรวม 2,600 กิโลเมตร เป็นแก้มลิงธรรมชาติและเปนทางระบายน้ำ ลดระดับหรือพร่องน้ำก่อนที่ฝนจะตก ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และข้อมูลพยากรณ์อากาศ ซึ่งปกติน้ำจะล้นถนนลงท่อระบาย-ลงคลอง-ลงอุโมงค์ยักษ์-ลงแม่น้ำเจ้าพระยา จะแบ่งส่วนงานรับผิดชอบ 2 ส่วนพร้อม
น.ต.ศิธา กล่าวว่า ตั้งใจให้มีธรรมนูญท้องถิ่น เพื่อปลดล็อก เช่นการจะก่อสร้างตึก หากจะมีความสูงเกินกฎหมายกำหนดสามารถทำได้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบของสภาชุมชนตามธรรมนูญท้องถิ่นและเสียค่าบำรุงให้ชุมชนใช้พัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีกลุ่มอาสาสมัครผู้หญิง ปักหมุดจุดเสี่ยง พบ 600 จุดทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ยังเท่าเดิมแต่ กทม.ไม่ได้ใส่ใจและสนับสนุนซึ่งใช้งบเพียงจุดละ 10,000 บาท รวม 6 ล้านบาท ในการติดไฟส่องสว่างและกล้อง CCTV พร้อมกันนี้ต้องปลดล็อกกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรค สนับสนุน Soft Power เพื่อดึงนักท่องเที่ยว ยุติการไล่รื้อย่านเมืองเก่าแต่ต้องพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม.