เมื่อวันที่ 16 พค. นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบความโปร่งใสโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (ท่อน้ำอีอีซี) ว่า กมธ.ตรวจสอบได้ข้อสรุปวันที่ 17 พ.ค. เตรียมทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก
รัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกการประมูลโครงการระบบท่อส่งน้ำอีอีซี โดยให้ประมูลใหม่ในระบบอีบิดดิ้ง ให้ทุกบริษัทได้เข้าร่วมประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม เพราะทีโออาร์ในการประมูลรอบที่ผ่านมาไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการประมูลในรอบที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการทีโออาร์และลดสเปกทีโออาร์ลงมา ซึ่งตัวแทนกรมธนารักษ์ตอบได้ไม่ชัดเจนถึงเหตุผลการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์

นายไชยา กล่าวว่า ขณะเดียวกันจะทำหนังสือถึงนายกฯขอให้ออกมติ ครม.ให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ที่เป็นหน่วยงานรัฐรับผิดชอบพื้นที่อีอีซี ร่วมเป็นเจ้าภาพกับกรมธนารักษ์คัดเลือกโครงการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี เพราะพื้นที่อีอีซีเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีกฎหมายรองรับโดยเฉพาะ ควรให้อีอีซีเข้าไปมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ตัวเอง ให้เกิดการบริหารจัดการร่วมกับกรมธนารักษ์ หากให้ใช้กฎหมายของกรมธนารักษ์เพียงอย่างเดียวอาจเกิดปัญหาได้โดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบระบบท่อส่งน้ำในอีอีซี 2 สาย ที่จะหมดสัปทานปี 2566 อาจเกิดการตีความในกรรมสิทธิได้ว่า ระบบท่อเหล่านี้เป็นของใครระหว่างบริษัท อิสท์วอเตอร์ที่เป็นเจ้าของสัมปทานเดิมกับกรมธนารักษ์ เกรงว่า เมื่อครบสัญญาปี 2566 จะเกิดปัญหาบริษัทเดิมไม่ส่งมอบระบบท่อให้บริษัทใหม่เข้ามารับช่วงต่อ โดยอ้างการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิระบบท่อส่งน้ำ ทำให้งานไม่เดินหน้า ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องการอ้งกรรมสิทธิท่อส่งน้ำควรให้อีอีซีเข้ามามีบทบาทในการร่วมคัดเลือกประมูลโครงการด้วย.