เมื่อวันที่17 พ.ค. นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เพื่อคัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับพรรคที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายพิเชษฐ ชี้แจงว่า มติดังกล่าวไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และข้อบังคับพรรคพปชร. พ.ศ. 2561 เนื่องจากเป็นเพียงความเห็นของคณะกรรมการฯ ไม่ใช่มติที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคดังนั้นบทลงโทษดังกล่าวไม่สามารถบังคับได้ ส่วนที่อ้างว่าตนไปตั้งกลุ่มการเมือง ในนามกลุ่ม 16 เพื่อเคลื่อนไหวการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรค พปชร.นั้น ขอปฏิเสธข้อกล่าวหา เนื่องจากการที่มีกลุ่ม16 ไม่ได้หมายความว่ามี ส.ส.16 คน เพื่อต่อรองทางการเมือง ทำลายเอกภาพพรรคตามที่ถูกกล่าวหา แต่หมายถึงกล่มบุคคลที่ทาความดี วางเป้าหมายทำความดี อะไรที่รัฐบาลทำไม่ถูกต้องก็ทักท้วง หากรัฐบาลทำดีจะสนับสนุน และกลุ่ม 16 เกิดจากการผลักดัน พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ และเพื่อตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น อันไหนไม่ถูกต้องและอาจจะทำให้รัฐเสียหาย เช่นโครงการท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก หรืออีอีซี หากไม่โต้แย้งอาจเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ และอาจทำให้มีผู้ยื่นเรื่องต่อ กกต.หรือ ป.ป.ช.ซึ่งจะมีผลเสียต่อรัฐบาล

ตนขอปฏิเสธตามข้อกล่าวหาว่าไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เพราะไม่เคยเข้าประชุม เพียงแต่ไปรับประทานอาหารพูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นทั่วไป ซึ่งเป็นปกติของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทน และพบในสถานที่สาธารณะไม่ได้เป็นที่ปรึกษาให้เกิดมีผลได้ผลเสียแก่พรรค โดย ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านที่ร่วมพูดคุยกัน เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และนายดล เหตระกูล ก็เป็นเรื่องทั่วไป

ส่วนการพูดคุยโทรศัพท์กับนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับคดีที่ศาลมีคำพิพากษาและเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรค พปชร. เป็นช่วงที่รับประทานอาหาร แล้วนายยุทธพงศ์ โทรศัพท์หานายทักษิณ เมื่อนายทักษิณทราบว่าตนอยู่ในวงรับประทานอาหาร ก็พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบตามปกติ เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยที่นายทักษิณ เป็นนายกฯโดยมีพยานในโต๊ะอาหาร และไม่เคยติดต่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายทักษิณ ดังนั้นข้อกล่าวหาของคณะกรรมการฯ ว่าตนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติข้อบังคับพรรค พปชร. และมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรคการเมือง เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง และเกินความเป็นจริง มีเจตนาให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอคัดค้านมติที่มติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ที่กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 และขอให้เพิกถอนมติดังกล่าว

ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามกรณีนายพิเชษฐส่งหนังสือถึงร้องคัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับ ที่สั่งห้ามร่วมกิจกรรมพรรค 6 เดือน โดยพล.อ.ประวิตรส่ายหน้าแทนการตอบคำถาม.