เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติอนุมัติ, เห็นชอบ และรับทราบ 4 ประเด็นสำคัญ มีรายละเอียดดังนี้

(1) ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 399,572,400 ล้านบาท ให้กรมประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการประชาสัมพันธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยปี 2565 และผลงานสำคัญของรัฐบาลตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ

(2) ที่ประชุม ครม.อนุมัติแผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2566-2580) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอเพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2564 ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินการภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีหลักประกันมั่นคง เป็นพลังพัฒนาสังคม” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางปฏิบัติงานด้านผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง 2) เพื่อเพิ่มคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ 3) เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ 4) เพื่อรองรับสังคมสูงวัยเชิงรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25-59 ปีในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นผู้สูงอายุในอีก 1-35 ปีข้างหน้า ให้ได้เตรียมพร้อมการใช้ชีวิตที่ดีในยามสูงอายุ

(3) ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการแต่งตั้ง นายวิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ต่อไปอีกวาระหนึ่ง โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ 390,000 บาท ตามมติคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป

อีกทั้งที่ประชุมมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งนายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

นอกจากนี้ ครม.มีมติอนุมัติตามที่ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอแต่งตั้ง 1.น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง 2.พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

(4) ที่ประชุม ครม.รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ปี 2564 ซึ่งตามแผนโครงการดังกล่าว กฟน.รับผิดชอบดูแลครอบคลุมพื้นที่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี และสมุทรปราการ ระยะทางรวม 236.1 กิโลเมตร กรอบระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2527-2570 รวม 8 แผนงาน ดำเนินการแล้วเสร็จ 55.7 กิโลเมตร และมีแผนงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการระยะทาง 180.4 กิโลเมตร และพบปัญหาอุปสรรค ทำให้การก่อสร้างไม่เป็นไปตามเป้าหมายและกรอบระยะเวลาที่กำหนด จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบ เช่น การเพิ่มระดับความลึกของบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินเพื่อหลบอุปสรรค รวมทั้งปัญหาการได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ล่าช้า ทำให้เริ่มงานก่อสร้างได้ช้ากว่าแผนงานที่กำหนด จากปัญหาดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนด.