นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย (TAA) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ปี 65 ได้รับสัญญาณที่ดีชัดเจนจากบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และมาตรการการเดินทางเข้าประเทศที่ผ่อนคลายตามลำดับ จนถึงปัจจุบันในไตรมาสที่ 2 ที่ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศ จึงเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจ ในการเพิ่มเส้นทางภายในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยไตรมาสนี้ TAA สามารถเพิ่มเที่ยวบินเป็น 11,002 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และวางเป้าหมายในการเพิ่มเส้นทางระหว่างประเทศใหม่ๆ ต่อเนื่องในตลาดอาเซียนและเอเชียใต้ 

นายสันติสุข กล่าวต่อว่า ล่าสุดพร้อมเปิดบินแล้ว 8 ประเทศ 19 เส้นทางบิน สู่ มัลดีฟส์ กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย และลาว เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ในการกลับมาท่องเที่ยวใช้จ่ายอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าในไตรมาสต่อๆ ไป จะกลับมารุกตลาดเส้นทางระหว่างประเทศได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเส้นทางเดิมที่เคยให้บริการ และสีสันใหม่ๆ ในเส้นทางบินสู่ประเทศญี่ปุ่นที่ TAA จะบุกตลาดเป็นครั้งแรก

นายสันติสุข กล่าวอีกว่า TAA ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนามาตรฐานบริการ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความตรงต่อเวลา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ TAA สำหรับไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงที่ TAA รุกทำแคมเปญการตลาดต่อเนื่อง โดยเฉพาะแคมเปญ SUPER+ ตั๋วบินสนั่นทั่วไทยและอาเซียนแบบเดินทาง 1 ปี พร้อมบริการส่งอาหารฟรีจาก airasia Food และประกันบอกเลิกการเดินทาง ทั้งนี้ TAA ตั้งเป้าหมายตลอดปี 65 ขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 10.4 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสาร 78% ความตรงต่อเวลา 90% และจบสิ้นปี 65 ด้วยฝูงบิน 53 ลำ

นายสันติสุข กล่าวด้วยว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 65  มีรายได้รวม 2,091.0 ล้านบาท และขาดทุน 2,370.6 ล้านบาท โดย TAA ฟื้นตัวแข็งเเกร่งอย่างน่าพอใจ มีอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย 73% เพิ่มขึ้น 7 จุด ยอดขนส่งผู้โดยสารสูง 1.45 ล้านคน เพิ่มขึ้น 48% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยราคาค่าโดยสารเฉลี่ยในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 1,018 บาทต่อคน อย่างไรก็ตามต้นทุนขาย และการบริการเพิ่มขึ้นตามปริมาณเที่ยวบิน ประกอบกับราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยปรับขึ้น 61% จากปีช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 21% โดยหลักจากค่าธรรมเนียมการขายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนของบริษัท ทั้งนี้ยอดผู้โดยสารยังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หลังมาตรการเข้าประเทศผ่อนคลาย ทำให้ TAA สามารถเพิ่มความถี่บิน และเปิดเส้นทางใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง.