เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีทัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งมีหญิงชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดสาหัส เหตุบริเวณภายในซอยชัยพรวิถี 41 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา ที่เกิดเหตุพบหญิงชาวต่างชาติอยู่ในสภาพสะบักสะบอม หน้าตาตื่นตระหนก สวมชุดออกกำลังกายสีน้ำเงินคาดดำ ไม่สวมรองเท้า และมีเศษดินเปรอะเปื้อนเต็มเนื้อตัว สอบสวนทราบต่อมาชื่อ นางสาวเอลลีน่า อายุ 38 ปี อยู่ในอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง มีอาการหวาดระแวงกลัวตลอดเวลา ตามร่างกายพบบาดแผลถลอก แผลแตกฉกรรจ์ด้านหลังท้ายทอย คิ้วขวาแตก ขอบตาทั้ง 2 ข้างปูดบวม เจ้าหน้าที่ต้องรีบปฐมพยาบาล แล้วรีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง นอกจากนี้ในร่างกายของผู้บาดเจ็บยังพบมือถือซัมซุง 1 เครื่อง และกุญแจรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อมาสด้า 1 ดอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นาย สุรพล บุตรดา 36 ปี ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ และเป็นผู้พบหญิงชาวต่างชาติ เล่าว่า ก่อนจะพบแหม่มรัสเซียรายดังกล่าว ตนกำลังยืนทำภารกิจอยู่หน้าบ้าน จากนั้นแหม่มรัสเซียได้วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากป่าละเมาะข้างถนน ภายในซอยที่เกิดเหตุสภาพเลือดท่วมใบหน้า เนื้อตัวเลอะมอมแมม วิ่งเข้ามาหาตน พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง ตนพยายามสอบถาม แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร เนื่องจากสื่อสารพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ

ตำรวจเปิดเผยเบื้องต้น จากการสอบสวนข้อมูลในเชิงลึก พบว่า แหม่มรัสเซียรายดังกล่าว เป็นครูสอนภาษา อยู่โรงเรียนสอนภาษา ย่านซอยเขาตาโล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 8-9 กม. โดยผู้เสียหายมักจะมาวิ่งออกกำลังรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชันในช่วงเย็นเป็นประจำ ส่วนสาเหตุของการถูกทำร้ายยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ประกอบกับผู้เสียหายยังให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และพูดยังให้การไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ได้ประสานกับทีมแพทย์ รพ.บางละมุง ตรวจร่างกายผู้เสียหายอย่างละเอียด รวมถึงเรื่องว่ามีร่องรอยของการถูกข่มขืนหรือไม่ ส่วนคนร้ายตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมีมากกว่า 1 คน ส่วนสาเหตุยังไม่ข้อสรุป เนื่องจากทรัพย์สินในตัวผู้เสียหายยังอยู่ครบ อย่างไรก็ตาม จะได้เร่งประชุมฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจหาภาพจากกล้องวงจรเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.