เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบตำรวจภูธรภาค 1 4 นายตำรวจ ในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เนื่องจากเห็นว่าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่กระทำการรวบรวมพยานและหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถที่จะกระทำได้ตลอดจนนำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสอบสวน และไม่ทำคดีชันสูตรการตาย ไม่ตรวจสารเสพติด นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์หรือ แซน และไม่อายัดเรือของกลางตั้งแต่แรก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.มนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเชิญนายอัจฉริยะ และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เข้าให้ถ้อยคำในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.)​ ซึ่งการสอบสวนจะดำเนินการตามประเด็นที่นายอัจฉริยะ ร้องเรียน โดยในส่วนของนายอัจฉริยะ จะสอบสวนในประเด็นที่ติดใจสงสัยรวมถึงพยานหลักฐานที่อ้างถึงส่วน พ.ต.อ.จาตุรนต์ จะสอบสวนตามความรับผิดชอบในคดี ส่วน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 และ พล.ต.ต.วสันต์ เตซะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.จ.นนทบุรี ได้ทำหนังสือแจ้งเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว

‘ผกก.เมืองนนทบุรี’ แจ้งความกลับ ‘อัจฉริยะ’แล้ว ลั่นทำงานตามกฎหมาย

“โดยใช้เวลาในการสอบสวน 30 วัน ก่อนจะสรุปผลการตรวจสอบว่ามีความผิดตามข้อร้องเรียนหรือไม่มีความผิด พร้อมกับเสนอบทลงโทษให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการ ทั้งนี้หากตรวจสอบพบพยานหลักฐานใหม่ ก็สามารถเสนออัยการนำเข้าประกอบสำนวนได้ ไม่ถือเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนที่ตรวจไม่พบตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าการตรวจสอบทำด้วยความโปร่งใส แม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ​รุ่นเดียวกับ ผบช.ภ.1 ก็ตาม” พล.ต.อ.มนตรี กล่าว

พล.ต.อ.มนตรี กล่าวอีกว่า ในชั้นนี้เป็นแค่การตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ใช่การตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับตำรวจทั้ง 4 นาย และไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อลดกระแสสังคม แต่ต้องการทำความจริงให้ปรากฏ.