ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลา10.00 น. นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัดกทม.พร้อมด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกทม. (กกต.ทถ.กทม.) ตรวจเยี่ยมการซักซ้อมเสมือนจริงในการประมวลผลลงคะแนน และทดสอบระบบรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. โดยคาดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไม่เกินเที่ยงคืนของวันเลือกตั้ง และมั่นใจคนกรุงใช้สิทธิ์ถึงร้อยละ 70

นางสุธาทิพย์ กล่าวว่า กทม. ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้วในทุกด้านเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริตโปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน โดยการซักซ้อมครั้งนี้เสมือนจริงทุกขั้นตอน

สำหรับขั้นตอนการนับคะแนน จะนับคะแนนพร้อมกันทั้งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และส.ก. ณ หน่วยเลือกตั้ง แยกกระดานคะแนนชัดเจน และใช้ผู้นับคะแนนชายหญิง เพื่อป้องกันความสับสน เมื่อแต่ละหน่วยเลือกตั้งนับคะแนนเสร็จ จะนำส่งหีบบัตรเลือกตั้ง วัสดุอุปกรณ์ แบบรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งส่งมายังสำนักงานเขต โดยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลแต่ละเขตจะมีการบันทึกข้อมูลผลคะแนนของแต่ละหน่วยงานเลือกตั้งผ่านระบบประมวลผลคะแนน จากนั้นจะถูกส่งไปยังศูนย์ประมวลผลใหญ่ เพื่อรวบรวมและประมวลผลภาพรวมทั้ง 50 เขต ทั้งนี้ ศูนย์กลางการประมวลผลคะแนนของแต่ละเขตจะอยู่ในภายในสำนักงานเขต จะมีเพียงเขตวัฒนา ที่จำเป็นต้องย้ายจุดไปที่โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง เนื่องจากสถานที่คับแคบ

ทางด้านนายสมชัย สุรกาญจน์กุล ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร ยืนยันความพร้อมของระบบนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการภายในเวลา 24.00 น. ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาแสดงตนเพื่อใช้สิทธิ์ภายในเวลา 17.00 น. จะได้ใช้สิทธิ์ทุกคน นอกจากนี้ได้สั่งการให้หน่วยเลือกตั้งสำรวจ และประเมินพื้นที่ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุฝนตกหนักน้ำท่วมหรือไม่ เพื่อหามาตรการรองรับ เชื่อว่าไม่กระทบการออกมาใช้สิทธิ์ของประชาชน

ขณะที่ นายประสพสุข พิมพ์โกวิท รอง ผอ.สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ฝ่ายประมวลผลการเลือกตั้ง กล่าวว่า ในการประมวลผลนับคะแนน ได้จัดให้มีระบบสำรองหากเกิดปัญหาระบบล่ม หรือไฟฟ้าขัดข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมแก้ปัญหาหน้างานทันที

อย่างไรก็ตาม กทม.ได้ตั้งเป้าการใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ ประมาณร้อยละ 70 โดยพบว่าประชาชนตื่นตัวต่อการใช้สิทธิ์ครั้งนี้อย่างมาก เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมานาน 9 ปี