เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานเสวนา “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” (Better Thailand Open Dialogue) ที่รัฐบาลจัดขึ้นในวันที่สอง โดยบรรยากาศภายในงานตั้งแต่ช่วงบ่าย จนถึงช่วงเย็น จะเห็นว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีที่นั่งเหลือเกือบครึ่งห้อง ผู้เข้าร่วมงานบางตาลงมากกว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา

จากนั้นเวลา 15.00 น. เป็นการเสวนาในหัวข้อ ”คุณภาพชีวิตยุคใหม่ ลดความเหลื่อมล้ำให้โอกาสทุกคน” โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นายกฯ ให้แนวทางว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนทุกมิติ ต้องดูแลตั้งแต่ต้น ไปรู้ปัญหาแล้วนำมาแก้ไข และจุดสำคัญคือจะต้องแก้ในปีนี้ แบบพุ่งเป้าแก้ปัญหาความยากจน

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า เราต้องเน้นที่ความเก่ง คนเก่ง และเน้นที่คนดีและความดี แต่ตนอยากจะเติมเรื่องความสามารถ เพราะคนเก่ง คนดีบางทีไม่มีความสามารถ ซึ่งอุดมศึกษาจะต้องเน้นเรื่องเก่ง ดี และความสามารถจะถือว่าสุดยอด ที่ตนพูดอย่าคิดว่าตนคุยโว หรือมโนไปเอง แต่ตอนนี้มีคนเก่งขึ้น เพราะมีการแก้ปัญหาเรื่องความยากจนได้สำเร็จ แต่วิธีที่ประเทศจะออกจากกับดักความยากจน การศึกษาจะต้องดี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า การสร้างขวัญและกำลังใจให้แรงงานในการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 เราต้องมองภาพแรงงานเป็นคนในครอบครัวและเราอยู่ข้างเขา ให้เขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและกระทรวงแรงงานอยู่ข้างเขา ไม่ทิ้งเขา ต้องประคับประคองทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ให้นายจ้างอยู่ได้ ด้วยเม็ดเงินที่เราประคองธุรกิจเอสเอ็มอี ถ้าผู้ประกอบการอยู่ได้ ลูกจ้างก็อยู่ได้ ทั้งนี้ เราขอให้ผู้ใช้แรงงานเชื่อมั่นรัฐบาลว่าเราลงไปทำงานเชิงรุก

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า มีคนเข้าร่วมงานมากกว่าวันแรก ที่บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา จึงทำให้เก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ภายในห้องจัดงานไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องเสริมเก้าอี้เพิ่ม

โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สังคมยุคใหม่กฎหมายทันสมัยระบบราชการทันโลก แก้คอร์รัปชั่นทันที” สรุปผลงานรัฐบาลตั้งแต่ปี 2562 สภาคลอดกฎหมาย 45 ฉบับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เสวนา หัวข้อ “คุณภาพชีวิตยุคใหม่ ดูแลทุกวัยยกระดับสวัสดิการ” สรุปภาพรวมการสู้โควิดที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยึดหลักวิทยาศาสตร์ มีการระดมสมองทุกวัน หายาเวชภัณฑ์ ต่างๆ เข้ามาทำให้ไม่เกิดการขาดแคลน

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึง สถานการณ์โควิดทำให้โรงเรียนทุกระดับต้องปรับการเรียนการสอนใหม่ มีทั้งออนไลน์ ออนไซต์ ออนแฮนด์ ออนแอร์ และ ออนดีมานด์ เมื่อปรับตัวได้ก็มาถึงขั้นตอนการระดมการฉีดวัคซีนในเด็กนักเรียนทุกคนแต่จากสถานการณ์โควิดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา พบปัญหาเด็กนักเรียนออกนอกระบบการศึกษาไปถึง 120,000 คน ซึ่งขณะนี้สามารถติดตามให้เด็กนักเรียนกลับเข้าสู่ระบบได้มีแค่ 95,000 คนเท่านั้น ยังต้องมีการติดตามต่อไป

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลถูกมองว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ แต่จริงๆ ถ้าดูผลงานที่จับต้องได้ จะเห็นว่าเป็นรัฐบาลที่มีการบูรณาการมากที่สุด นายกรัฐมนตรีมีการให้เกียรติทุกพรรคการเมือง ทั้งนี้นายกฯ มีสปิริตของความเป็นผู้นำ เวลาตัดสินใจจะบอกว่าดูแลประเทศไทยแบบครอบครัว โดยการระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เป็นตัวอย่างชัดเจน นายกฯ ประกาศไว้เลยว่าเท่าไหร่ก็เท่ากัน เพื่อรักษาชีวิตคนไทย ป้องกันคนไทยไม่ให้เจ็บป่วย

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเสวนาหัวข้อสิ่งแวดล้อมยุคใหม่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจ สรุปภาพรวมการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล ทั้งเรื่องมลพิษทางอากาศ, น้ำเสีย PM 2.5 ประเทศไทยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประชาชนให้ความร่วมมือในการไม่เผาในที่โล่ง.