จากกรณีปรากฏภาพเหตุการณ์ทางสื่อสังคมออนไลน์ 3 วัยรุ่น ขี่รถ จยย. พยายามขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.สามพราน จ.นครปฐม แต่กลับถูกจับใส่กุญแจมือ กระทืบ เหยียบหัว เข็มขัดฟาด ท่ามกลางกระแสสังคมที่ออกมาตั้งคำถาม ว่าตำรวจกระทำเกินไปหรือไม่ เพราะทำเหมือนกับไม่ใช่คน เหยียดหยามความเป็นมนุษย์ จนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมานั้น

งามไส้วงการสีกากี! 3โจ๋หนีอริขอตร.ช่วย โดน’จับ-กระทืบ-เหยียบ-ฟาด’

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุจาก สภ.สามพราน ถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะเข้าจับกุม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลาประมาณ 01.30 น. สถานที่เกิดเหตุ หน้าหมู่บ้านพฤษาวิลล์ ถนนบรมราชชนนี หมู่ 1 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม

สำหรับตำรวจที่ต้องหาว่าทำร้าย คือ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ รอง สวป.สภ.สามพราน ส่วนผู้ถูกทำร้าย ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนเถื่อน นายพัสวเรศ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ของกลางที่พบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด 

สำหรับพฤติการณ์ ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหติ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 ออกตรวจพื้นที่พร้อมพลขับได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นและขับขี่รถ จยย.ย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงได้เดินทางไป แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่นอยู่บริเวณดังกล่าว ร.ต.อ.ไชยะพจน์ จึงได้จอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ ระหว่างนั้นนายพัสวเรศได้ขี่รถ จยย.ย้อนศรมาตามถนนบรมราชชนนี พร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงได้เรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงได้จับกุมตัวนายพัสวเรศ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาบิดาของนายพัสวเรศ ได้แจ้งว่านายพัศวเรศ ถูก ร.ต.อ.ไชยะพจน์ ทำร้ายร่างกายโดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ เวลาต่อมา ภ.จว.นครปฐม ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.ไชยะพจน์ และ ส.ต.ต.พนาดร ช่างเขียน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สามพราน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำ ศปก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมทั้งออกคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในขณะเดียวกัน สภ.สามพราน ติดตามผลการชันสูตรบาดแผล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้เวลา 16.00 น. ตนเรียก รอง ผบช.ภ.7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ พร้อมทั้ง ผบก., รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, ผกก.สภ.สามพราน พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาประชุมสรุปหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอยืนยันว่า หากผลการสอบสวนข้อจริงพบว่าการกระทำของตำรวจทั้งสองนายว่าผิด จะดำเนินการทั้งวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด ในเบื้องต้นอยากขอโทษต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าว หากผู้ใต้บังคับบัญชาตนกระทำความผิด แต่อย่างไรเสียก็ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่า ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย.

ชมคลิป