เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงโรคฝีดาษลิง ที่กำลังระบาดในต่างประเทศว่าขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขโดยไม่ตื่นตระหนก ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดตั้งคณะกรรมการพนักงานปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิงมี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ทำหน้าที่คัดกรองบุคคลที่มาจากประเทศเสี่ยง 17 ประเทศ ซึ่งแต่ละสนามบินมีด่านคัดกรองของกรมควบคุมโรคที่กำลังทำหน้าที่ตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น

รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงจะมีประชุมแจ้งเตือนและกำชับสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศให้ไปทำความเข้าใจและติดตามข้อมูลจากคลินิกโรคผิวหนังและคลินิกกามโรคภายใประเทศว่าพบโรคนี้เข้ามาบ้างแล้วหรือไม่ นอกจากนี้อาจต้องมีการ พิจารณาว่าควรปรับนิยามของโรคนี้ให้ไปอยู่ในนิยามของคำว่าโรคติดต่อร้ายแรงหรือไม่ส่วนการฉีดวัคซีนของประชาชนที่เกี่ยวกับโรคฝีดาษนั้น ที่จริงเป็นการปลูกฝีที่มีขึ้นในช่วงปี 2523 ซึ่งผู้ที่เกิดจากหลังจากปี 2523 จะไม่ได้รับการปลูกฝีประเภทนี้ โดยการปลูกฝีไม่ได้ช่วยป้องกันโรค แต่ช่วยป้องกันอาการรุนแรงของโรคได้ 80 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามว่าประชาชนสามารถสังเกตอาการตัวเองได้อย่างไร นายสาธิต กล่าวว่า ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์ ระบุให้สังเกตว่ามีอาการไข้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีตุ่มฝีภายใน 1 สัปดาห์หรือไม่ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้แยกแยะจากอาการของโรคอื่นได้ยากต้องคอยฟังคำเตือนจากกรมควบคุมโรคและคณะกรรมการพนักงานปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินฯด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นจะต้องรื้อฟื้นการปลูกฝีดาษขึ้นมาหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ต้องติดตามแผนงานว่าในการระบาดของโรคฝีดาษลิงในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการผลิตวัคซีนตอนนี้มีหลายบริษัทที่ผลิต ขณะเดียวกันเราต้องดูว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ในการลงทุนเรื่องปลูกฝีให้กับผู้ที่เกิดหลังปี 2523 เมื่อเทียบกับสถิติการระบาด ทั้งนี้ การระบาดของโรคดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นง่ายเหมือนกับโรคโควิด-19 ถึงยังจำเป็นที่ต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป

ขณะที่ นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ทำหมันลิงอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบสุขภาพลิงไปพร้อมกันด้วย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังไม่พบว่ามีโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย แต่ให้ทุกพื้นที่ในไทยที่มีลิงอยู่จำนวนมาก และตามด่านชายแดนที่อาจมีการนำสัตว์ป่าข้ามแดนเข้ามาตามสนธิสัญญาไซเตส ต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัด เพราะหากมีการลักลอบนำสัตว์ป่าเข้ามา อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของโรคฝีดาษลิง

อย่างไรก็ตาม ในจุดต่างๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ จ.ลพบุรี, เขาสามมุก​ จ.ชลบุรี, เขาวัง​ จ.เพชรบุรี เท่าที่ตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบโรคฝีดาษลิง แต่ขอย้ำกับประชาชนในช่วงนี้อย่าเข้าใกล้สัตว์ป่าจนเกินไป เนื่องจากเราไม่รู้ว่าในช่วงนี้เขาไปติดโรคอะไรมาบ้าง ขอให้ระมัดระวังในการไปท่องเที่ยว.