เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ กลุ่มขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน นำโดย นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และ น.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย ผู้จัดการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม เคลื่อนขบวนจากด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาล ยกเลิกร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลัง พร้อมวางแนวแผงเหล็กและลวดหนาม รวมทั้งรถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลความปลอดภัย โดยรอบทำเนียบรัฐบาลเนื่องจากเป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้ได้เกิดเหตุชุลมุนเป็นระยะ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจที่ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายมีการประสานส่งตัวแทนมาเจรจา โดยในเวลา 10.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน ครม. มารับหนังสือจากตัวแทนผู้ชุมนุม เรียกร้องให้ยกเลิกมติ ครม.ที่เห็นชอบหลักการร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นการควบคุมเสรีภาพของประชาชน

นายอนุชา กล่าวยืนยันว่า ตนมีความจริงใจที่จะมารับฟังปัญหา แต่การที่จะให้ ครม.มีคำตอบในวันนี้และเวลานี้ คงต้องร่วมกันพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นอยากขอเวลา 1 เดือน เพื่อไปศึกษาเป็นทางออกร่วมกัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ ก่อนที่ตัวแทน จะระบุว่า ทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี มาแล้วเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงยืนยันว่าจะต้องได้คำตอบจาก ครม.ภายในวันนี้ ทั้งนี้ ตนจะนำข้อเรียกร้องไปหารือ ส่วนมติจาก ครม.จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคงไม่สามารถบอกได้

ทางด้านนายสมบูรณ์ กล่าวยื่นคำขาดจะปักหลักชุมนุม เพื่อรอคำตอบจาก ครม.ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา พร้อมระบุว่า หากเป็นผลออกมาที่ไม่น่าพอใจ ยืนยันจะเดินหน้าต่อต้านให้ใหญ่กว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม มีสาระสำคัญเพื่อการวางมาตรการให้องค์กรภาคประชาสังคม ที่อยู่ในรูปแบบสมาคม มูลนิธิ หรือคณะบุคคลต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรเพื่อให้รัฐและสาธารณชนเข้าถึง อีกทั้งต้องไม่ทำการที่จะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก.