เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี หรือไปสิ้นสุดปี 2602 จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 ว่าต้องมีการพูดคุยกัน วันนี้มีการเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่แล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นภาระที่ต่อเนื่อง ขอฝากช่วยกันแก้ไขให้เดินได้และทำให้ถูกต้อง ซึ่งตนไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูก หลายอย่างอยู่ในอำนาจและอยู่ในกรอบของคณะกรรมการทั้งนั้น ขณะที่นายกฯ เพียงให้นโยบายและ ครม.เป็นผู้อนุมัติ แต่ทุกคนต้องทำตามกฎหมายที่มีอยู่และต้องรับผิดชอบ

สำหรับประเด็นเมื่อเปลี่ยนผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่จะเป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มีมั้ง จะมีได้ยังไงก็คุยกันมันก็จบ มันเป็นระบบที่ต้องทำงานด้วยกันอยู่แล้ว”

เมื่อถามว่าดูเหมือนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ไม่เห็นด้วยหากจะนำมาพิจารณากันใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อะไร ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาดู มีใครที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม รฟม. และผู้ได้สัมปทานอะไรทำนองนี้ที่ต้องคุยกัน แต่ข้อสำคัญคือยิ่งช้ามันก็ยิ่งเสียประโยชน์ ประชาชนเดือดร้อน เราอยากให้ทุกอย่างมันสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือด้วยกันของทุกฝ่าย ไม่ว่าใครก็ตาม ผมไม่ใช่ศัตรูกับใครอยู่แล้ว แต่ผมทำงานด้วยหลักการ ด้วยกฎหมายด้วยระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินที่ผมต้องระมัดระวังอย่างที่สุด”

เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะจบในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คุยหรือยัง ต้องรอคุยกันก่อนและต้องมีการแต่งตั้งก่อนกระบวนการแต่งตั้งแล้วเสร็จ ถึงจะคุยได้ เมื่อเลือกตั้งจบไป

จากนั้นก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทักทายสื่อมวลชนอย่างอามรณ์ดี พร้อมโบกมือทักทาย และกล่าวว่า “ไปช่วยกันทำบ้านเมืองให้มันสงบเรียบร้อยก็แล้วกัน”.