เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบผู้ใช้โทรศัพท์มือถือของดาราสาวแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กส่วนตัวของแตงโม โพสต์ภาพและข้อความต่างๆ จนทำให้เกิดข้อสงสัยและชาวเน็ตนำไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ว่า ภายหลัง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ตำรวจจึงเริ่มต้นสืบหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งรายละเอียดอยู่ในสำนวน ส่วนการเข้าถึงรหัสและข้อมูลทางโทรศัพท์ต่างๆ ของแตงโม มีความคืบหน้าไปมาก เบื้องต้นพอจะทราบได้ว่าเป็นผู้ใด แต่ยังต้องเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างโทรศัพท์เพื่อความแน่ชัด ตอนนี้พอจะทราบสถานที่และเครือข่ายที่ผู้โพสต์ใช้ ซึ่งจากการประสานข้อมูลกับเฟซบุ๊ก ก็พบว่าเฟซบุ๊กแตงโมมีการโพสต์ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.

พล.ต.ท.กรไชย ปฏิเสธไม่ตอบว่าผู้โพสต์ว่าอยู่ที่ใด เนื่องจากจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ ซึ่งในการตรวจสอบจะต้องหาข้อมูลจากโทรศัพท์เครื่องหลักประกอบคู่กัน หากมีใครจะเปิดใช้งานเครื่องที่ใช้โพสต์นั้น เครื่องหลักจะต้องได้รับข้อมูลก่อน ยืนยันว่ามีข้อมูลครบถ้วนทั้งหมด ส่วนเรื่องที่ผู้โพสต์อยู่ที่สหรัฐอเมริกานั้น เป็นเรื่องที่คาดเดากันไปเอง ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ หากมีใครเกี่ยวข้องก็จะขอความร่วมมือเข้ามาให้การกับตำรวจ เช่นเดียวกับแม่ของแตงโม ซึ่งจากการประสานเจ้าตัวก็ขอให้เสร็จพิธีศพทั้งหมดแล้วอาจจะเข้ามาพบ พร้อมสอบถามแม่ด้วยว่าโทรศัพท์ของแตงโมอยู่กับใคร อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มีหลายคนเข้าใจผิดว่าหากแม่แตงโม ไม่มาแจ้งความตำรวจจะสืบสวนสอบสวนไม่ได้ ซึ่งกฎหมายระบุว่า ผู้มีกรรมสิทธิ์และสิทธิในการฟ้องร้องคดีคือพ่อแม่ คู่สมรส และบุตร เป็นต้น ยืนยันตำรวจได้ทำงานควบคู่กันไป เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกออนไลน์และเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ เราจึงสามารถเดินหน้าได้เต็มที่

อย่างไรก็ตาม หากผู้ก่อเหตุอยู่ต่างประเทศ ต้องตรวจสอบว่าประเทศที่ผู้นั้นอยู่มีสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศหรือไม่ ซึ่งประเทศนั้นต้องตรวจสอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคดีสำคัญหรือไม่ เพราะอาจจะไม่ส่งตัวผู้ร้ายกลับมาก็ได้ เนื่องจากในอดีตมีบางคดีสำคัญยังต้องใช้เวลาหลายปี ส่วนกรณีที่เกิดขึ้น เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 นำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบ และ ม.16 นำเข้าภาพของบุคคลอื่นซึ่งอาจเกิดจากการตัดต่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

กรณีมีข่าวพบการโอนเงินหลักแสนให้กับบุคคลที่แตงโมเคารพรักนั้น พล.ต.ท.กรไชย เผยว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบข้อมูล จึงขอไม่ตอบ และการโอนเงินก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว และจะมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ก็ยังไม่ขอตอบเช่นกัน เพราะการโอนเงินอาจจะให้ด้วยความเสน่หาหรือไม่ และจะโอนให้ใคร จะเกี่ยวข้องกับเรื่องโทรศัพท์หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบต่อไป.