เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตกลุ่มทะลุวัง จำเลยคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในคดีโพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จฯ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.65 โดยได้เบิกตัว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราว

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า วันนี้ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องปล่อยชั่วคราวของ น.ส.ทานตะวัน ซึ่งศาลได้มีคำสั่งเบิกตัวจำเลยมาศาล ให้ทนายจำเลยและนายประกันมาศาล เพื่อสอบข้อเท็จจริงว่าหากอนุญาตปล่อยไปแล้ว กรณีมีการทำผิดสัญญาประกัน ผู้ขอยื่นประกันจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งโดยหลักของการปล่อยชั่วคราวในคดีอาญาคือ ต้องมีหลักประกันเป็นเงินสดหรือความเชื่อถือ หากมีความผิดสัญญาหรือเห็นว่านายประกันไม่น่าเชื่อถือ ศาลก็มีคำสั่งให้ถอนประกันได้อยู่แล้ว ตอนนี้ตนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของ น.ส.ทานตะวันมากกว่าเพราะดูอาการแล้วไม่ค่อยดี สุขภาพทรุดโทรมมาก ส่วนโอกาสที่จะได้ปล่อยหรือไม่ได้อยู่ที่ปลายปากกาผู้พิจารณา เพราะตนผิดหวังบ่อยมากเลยไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ทั้งนี้วันนี้พ่อแม่ของผู้ต้องหาก็เดินทางมาด้วยความที่เป็นห่วงสุขภาพของลูกและตลอดเวลาที่ถูกคุมขังก็ไม่ได้เจอหน้า แต่เพราะศาลมีคำสั่งให้เบิกตัวมาจึงหวังว่าจะได้มาเจอหน้าลูกตัวเอง สรุปสุดท้ายเป็นการไต่สวนผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า หลักของรัฐธรรมนูญการปฏิบัติต่อคนที่คำตัดสินยังไม่ถึงที่สุด ว่าเป็นคนผิดนั้นเราปฏิบัติต่อเขาไม่ได้มีการเขียนไว้ชัดเจน คือเราต้องปฏิบัติต่อเขาเสมือนว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่เสมอ อย่างกรณีที่รัฐเป็นฝ่ายกล่าวหา ในขณะที่ศาลมีอำนาจอธิปไตยที่ต้องป็นกลาง ไม่ฟังสิ่งที่ตำรวจอ้าง แต่ให้เสนอหลักฐานมา หากไปเชื่อตำรวจเสียแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์ แต่ตนขอย้ำว่าการไม่ให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลหลายๆเรื่องนั้น มันขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน ในวรรค 3 หรือวรรค 4 ของเรื่องนี้เขียนไว้ชัดเจนว่า การจับกุมคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา ให้ทำเท่าที่จำเป็น เพียงเพื่อไม่ให้หลบหนี ซึ่งที่ น.ส.ทานตะวัน เรียกร้องอยู่เพื่อสิทธิในการปล่อยชั่วคราวให้กับทุกคนที่ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือคนธรรมดาที่ยังบริสุทธิ์อยู่ให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และพิจารณาไปตามหลักกฎหมาย

ทางด้านนายพิธา ระบุว่าวันนี้เป็นการพยายามครั้งที่ 3 ในการมาประกันตัว น.ส.ตะวัน ที่งดข้าวตัวเองมาเป็นเวลา 30 กว่าวัน และทนายเห็นว่าอาการไม่ดีเลยและมีวิกฤตทางสุขภาพ ก็อยากจะมาประกันตัวตามสิทธิ น.ส.ทานตะวัน เพื่อที่จะไปรักษาและดูแลสุขภาพ เพื่อมาสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา ตนยินดีที่จะทำทุกวิถีทางตามกรอบกฎหมายกำหนดให้ น.ส.ทานตะวัน ออกมา แต่ทางศาลจะวางแนวพิจารณาอย่างไร คงต้องพูดคุยกับทางทีมทนาย ตนไม่กังวลกับเงื่อนไขที่ศาลจะออกหากได้ประกัน ตอนนี้กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ต้องหามากกว่า เพราะตอนนี้เรากำลังพูดถึงชีวิตของคนๆหนึ่งที่เขาทรมานตัวเองต่อสู้เพื่อความยุติธรรม แลกกับอะไรก็ต้องยอม

เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงผู้มีอำนาจหรือไม่ นายพิธากล่าวว่าขอฝากไปถึงการทำกระบวนการตุลาการให้เหมาะสมน่าเชื่อถือ สามารถที่จะอยู่คู่กับสังคมไทยในยุคใหม่ให้ได้ ต่างชาติและนักธุรกิจกำลังดูอยู่ ในบ้านเมืองที่ไม่มีขื่อไม่มีแปไม่มีใครเขาสนใจอยากจะลงทุน อีกประการคือจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับคนในชาติมากไปกว่านี้ เพราะมีความอยุติธรรมเกิดขึ้น เรื่องของตุลาการ การฝากขัง ในกระบวนการบริหารจัดการ คงต้องเตือนไปยังรัฐบาลว่าเรามีปฏิญญากับสากลอยู่หลายฉบับรวมถึงการสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน

เมื่อถามว่าหากศาลขอความรับผิดชอบจากผู้ร้องขอปล่อยชั่วคราว มีอะไรที่รับรองหรือเสนอศาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนก็เป็นนายประกันตามตำแหน่งทางกฎหมายทุกอย่าง ยินดีที่จะให้คำมั่นว่าจะพา น.ส.ทานตะวันมาศาล และต่อสู้กันตามกฎหมายอย่างยุติธรรมไม่มีการหลบหนีแน่นอน.