ยังคงเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อย่างดุเดือด ถึงเรื่องราวการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” ที่ล่าสุด คุณแม่ภนิดา ได้ส่งโทรศัพท์ไปให้ “บังแจ็ค” เปิดเผยข้อมูลแถมด้วยภาพลับของลูกสาว ซึ่งในเรื่องนี้ “ทนายเดชา” ทนายคุณแม่ได้ออกมาประกาสถอนตัว

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้เปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย โดยทนาย เผยว่า ยังจุ๊กกรู๊เหมือนเดิม มีความสุขมากขึ้น หมดเวรหมดกรรม ก่อนหน้านี้ก็ทราบว่ามีรถทัวร์ลงมาตลอด เพราะเราไปเห็นภาพศพและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลักฐานเป็นตามข้อเท็จจริงทั้งหมด ก็พูดตามนั้น เพียงแต่มันไม่ตรงใจคนนั้นคนนี้ที่มีต้นทุนทางสังคม ผมไม่ได้พูดถึงใครก่อน

เรื่องโทรศัพท์ “แตงโม” อันนี้ตอบตรงๆคือ 1.มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ดูดข้อมูลทั้งหมด วันที่ 13 พ.ค. แม่ก็ไปดำเนินการรับคืนด้วยตัวเองโดยไม่ได้ปรึกษาทนาย ผมก็มารู้เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมานี่เอง ว่าส่งไปให้บังแจ็ค 2.เมื่อหมดความจำเป็นในการดูดข้อมูลในโทรศัพท์แล้วถึง 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ก็คืนให้กลับมา

“ตอนที่รู้ว่าแม่บอกว่าโทรศัพท์อยู่กับทนายเดชา ก็ตกใจว่าลูกความเล่นทนายแล้ว รู้สึกแปลกๆ ไม่ได้โกรธแม่นะ เพราะก็ต้องเอาตัวรอด เรื่องนี้ผมก็ไม่สบายใจ เราไม่ได้ทำไง แต่คนด่ารุมสาปแช่ง จนเย็นวันที่ 25 พ.ค. เลยตัดสินใจโทรฯไปสอบถาม คุณแม่ก็ยอมรับว่าส่งโทรศัพท์แตงโมไปให้ “บังแจ็ค” ผมเลยขออนุญาตคุณแม่แถลงข่าว เพราะสุดจะทนแล้ว”

เหตุผล 3 ข้อก็คือ 1.มุมมองคดีแตกต่างกัน ดูแล้วแม่เริ่มมีที่ปรึกษาเยอะไปหมด ผมเลยคุยกับแม่ว่าผมจะถอนตัวดีไหม ก็สรุปว่าแม่ไม่ได้ถอนผมออก ให้ทำคดีถึงชั้นอัยการ แม่บอกว่า เต้ มงคลกิตติ์พร้อมทีมได้แนะนำว่าจะทำงานไปทางฟ้องคดีทางฆาตกรรม แต่ผมไม่ทำคดีไปทางนั้น ผมทำไปทางประมาททำให้แตงโมเสียชีวิต จึงขอถอนตัวออกมาเอง แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ผมก็ขอกราบลาพระมารดา ก็ถามว่าแม่จะฟ้องผมไหม แต่แม่ไม่ทำหรอก เพราะผมทำอะไร ช่วยเหลือแม่หลายอย่าง

เรื่องที่สอง รับไม่ได้ก็คือ บังแจ็คนำข้อมูลส่วนตัวของแตงโมอกมาให้คนอื่นดู ถ้าหากมีภาพการฆาตกรรมจริงๆ ก็ส่งข้อมูลไปให้คุณอัจฉริยะ, เต้ มงคลกิตติ์ หรือคุณหญิงหมอ ที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคม ดีกว่าไปส่งให้บังแจ็ค ที่เป็นใครก็ไม่รู้ ก็เป็นอีกหนึ่งฟางเส้นสุดท้ายของผม

เรื่องที่สาม ก็คือคุณแม่ไม่พอใจทนายตั้ม ที่โพสต์ทำนองให้คนสนิทโทรฯปรึกษาอยากเปลี่ยนทนาย วิจารณ์ว่าเป็นแม่แบบไหนกัน แม่บอกผมหลายครั้งว่าไม่พอใจ อยากให้ทนายตั้มโทรฯไปขอโทษ ให้ผมดำเนินคดีกับทนายตั้ม ผมก็โทรฯหาทนายตั้ม ว่าทนายตั้มขอโทษแม่เถอะ เขาก็ไม่ขอโทษ แม่เลยบอกจะให้ดำเนินคดี แต่ทนายตั้มเป็นเพื่อนผม ผมดำเนินคดีกับเขาไม่ได้ ผมก็เลยคิดว่าพอกันที

“ผมรู้สึกโล่งเลย ครอบครัว ลูกน้องอยากให้เลิกยุ่ง มันเสียชื่อเสียงต่างๆ ไม่อยากใช้คำว่าคุ้มไม่คุ้ม แต่เรามาโดนด่าเพราะคนที่เห็นต่างกับเรา ถ้าย้อนเวลากลับไปก็คงทำคดีเหมือนเดิม ไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว พี่น้องประชาชน เอฟซีทนายคลายทุกข์ ผมต้องกราบขอโทษ นับตั้งแต่วันนี้ต่อไปผมก็จะไม่ยุ่ง ไม่พูดเรื่องแตงโมแล้ว ตั้งแต่เป็นทนายมา 36 ปี ไม่เคยเจอลูกความแบบพระมารดาเลย แต่ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของคุณแม่”..