เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ในประเด็นการสร้างหลักฐานเท็จเพื่อขอให้มีการสอบเพิ่มเติม ผ่านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้มาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการขอความเป็นธรรมให้กับแตงโม เนื่องจากสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ตนสามารถเป็นคนร้องขอความเป็นธรรมแทนได้ และมีการร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด 8 ข้อกับทางอัยการสูงสุด ได้โปรดมีคำสั่งไปยังพนักงานอัยการ เพื่อขอให้ทางตำรวจภูธรภาค 1 ทำการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 3 ปาก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ 1.พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ซึ่งจะเป็นพยานคนกลาง 2.พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งจะเกี่ยวกับเรื่องบาดแผล และ 3.ผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส ซึ่งจะสามารถระบุได้ว่า พิกัดที่บอกว่ามีการตกท้ายเรือ เป็นไปไม่ได้ รวมถึงขอให้มีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง เพราะเชื่อว่าถ้ามีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง จะสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่การประมาท ตลอดจนการตรวจสอบพิกัดที่ตกเรือ เพราะมองว่าการตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้ ซึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เคยพูดไว้แล้วถึง 2 ครั้งว่าเป็นการตกจากหัวเรือ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องสอบปากคำ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ รวมถึง พ.อ.นพ.ธวัชชัย และผู้เชี่ยวชาญด้านจีพีเอส เพื่อดูว่าบาดแผลช่วงเวลาการเสียชีวิต และตำแหน่งเรือ สัมพันธ์กันหรือไม่ โดยหากอัยการสูงสุดมีคำสั่งเร็ว ก็คาดว่าไม่เกิน 10 วันก็แล้วเสร็จ เพราะพยานทุกคนพร้อมจะมาให้ปากคำ โดยไม่ถือเป็นการประวิงเวลา

นายอัจฉริยะ กล่าวถึงการร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด 8 ข้อกับทางอัยการสูงสุดว่า ประกอบด้วย 1.สอบปากคำ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในฐานะพยานผู้เชี่ยวชาญคนกลาง ที่ระบุข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ว่าแตงโมตกท้ายหรือหรือหัวเรือ 2.สอบปากคำ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ ประเด็นเรื่องบาดแผลที่ต้นขาขวา 3.สอบปากคำผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ที่ระบุว่า การตกท้ายเรือเป็นไปไม่ได้ 4.สอบปากคำนายบอลเจ้าของอู่เรือ NBC ว่าหลังจากคนบนเรือนำเรือมาเก็บ ได้มีการนำเรือออกไปใช้งานที่ไหนอีกหรือไม่ 5.สอบปากคำนายเซียะ เจ้าของอู่เรือ NBC ตัวจริง เรื่องเซิร์ฟเวอร์ภาพวงจรปิดภายในอู่เรือว่าเสียจริงหรือไม่ 6.ให้หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานกลาง หรือพิสูจน์หลักฐานของกระทรวงยุติธรรม ทำการตรวจพิสูจน์เรือลำเกิดเหตุใหม่ เพื่อหาคราบเลือด แต่ไม่ให้พิสูจน์หลักฐาน 1 เป็นผู้พิสูจน์ เพราะไม่ไว้ใจ 7.ให้ดำเนินการยึดเสื้อผ้าที่คนบนเรือใส่ในวันเกิดเหตุ มาตรวจสอบดีเอ็นเอและคราบเลือด ซึ่งตนทราบมาว่าตำรวจยังไม่เคยดำเนินการ และ 8.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องอาวุธมีดว่าใครเป็นคนพกไว้ตอนที่อยู่บนเรือ

นายอัจฉริยะ กล่าวเสริมว่า โดยประเด็นหลักๆ คือขอให้มีการตรวจคราบเลือดใหม่อีกครั้ง ทั้งคราบเลือดบนเรือ และที่เสื้อผ้าของคน 5 คนบนเรือในวันเกิดเหตุ ที่ตำรวจไม่เคยยึดมาตรวจ โดยขอให้นำไปตรวจกับหน่วยงานกลาง เช่นกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแหล่งชาติ หรือ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมก็ได้

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ทางทนายเดชา และทนายตั้ม ออกมาพูดในทำนองว่าตนเองมีส่วนร่วมมือกับบังแจ็ค ในการปล่อยภาพแตงโมนั้น นายอัจฉริยะยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้อง แต่บังแจ็คเคยติดต่อมาเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีคลิปเสียงของตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี รับเงิน แต่ตนเองไม่เชื่อและไม่ให้ค่ากับสิบแปดมงกุฎ

กรณีที่ทนายเดชาได้ถอนตัวเป็นทนายความให้แม่แตงโม นายอัจฉริยะ ระบุว่า ตนพร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้หากคุณแม่ต้องการ แต่ตนเองไม่เห็นด้วยที่แม่จะไปฟ้องร้องทนายเดชาหรือบุคคลใดๆ เพราะแม่ควรมุ่งตามหาความจริงในการเสียชีวิตของลูก และส่วนตัวก็มองว่าทนายเดชาทำตัวไม่เหมาะสมกับการเป็นทนาย ที่ออกมาแถลงข่าวเรื่องโทรศัพท์แตงโมเอง แต่ควรให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไซเบอร์มากกว่า การเอาลูกความมาประจาน แล้วตัวเองก็มาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องเช่นนี้ จะเป็นทนายให้ลูกความได้อย่างไร ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ทนายเดชารับรู้ตลอดว่าในโทรศัพท์แตงโมมีข้อมูลอะไรบ้าง แต่ด้วยความที่ทนายเดชามีความเอนเอียง เชื่อมั่นตำรวจมากกว่า ทำให้เกิดขัดแย้งทางความคิดกับแม่ แม่จึงหันไปเชื่อบังแจ็คที่เป็นคนกะล่อน ดังนั้นจะโทษแม่คนเดียวไม่ได้ ต้องว่าทนายซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้วย ว่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้เริ่มไม่เชื่อถือในหน่วยงานของรัฐหลายๆ หน่วยแล้ว หลังพบว่าแต่ละหน่วยงานมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอ หรือกระทรวงยุติธรรม

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า นายอัจฉริยะมายื่นหนังสือตามรัฐธรรมนูญเพื่อยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดขอให้สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี สอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็นตามที่นายอัจฉริยะได้ยื่นเอกสารมาผ่านทางโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โดยหลังจากที่รับเรื่องแล้วจะรีบนำเรื่องดังกล่าวส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา แต่ส่วนตัวไม่สามารถระบุได้ว่า อัยการสูงสุดจะพิจารณาได้ทันก่อนการสั่งคดีในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่อัยการจังหวัดนนทบุรีจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้หรือไม่นั้น ตนไม่ขอก้าวล่วง ขอให้อัยการจังหวัดนนทบุรีเป็นผู้พิจารณา