เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เวลานี้กรมอุทยานฯ รับเลี้ยงดูสัตว์ป่า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าของกลาง ที่ตรวจยึดมาจากขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าแล้วเอามาบริจาคให้เพื่อช่วยเลี้ยงดู โดยอยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าทั่วประเทศจำนวนมาก ทั้งสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ รวมไปถึง นกอีกจำนวนมาก โดยเวลานี้เราดูแล เสือโคร่งกับสิงโต 188 ตัว เสือดาว 27 ตัว เสือไฟ 8 ตัว หมีหมา หมีควาย 222 ตัว ลิง ชะนี ค่าง 2,600 ตัว นางอาย 194 ตัว นาก 87 ตัว นกเหยี่ยว 507 ตัว รวมทุกชนิด ประเภทแล้ว มีทั้งหมด 26,000 ตัว เดิมทีกรมอุทยานฯ ได้รับงบประมาณสำหรับเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ปีละ 80 ล้านบาท แต่ปีนี้ถูกตัดเหลือแค่ 30 ล้านบาท ทำให้เกิดความยากลำบากสำหรับการดูแลอย่างยิ่ง

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามกรมอุทยานฯ ได้พยายามทำโครงการต่างๆ เพื่อดูแลให้สัตว์ป่าเหล่านี้มีชีวิตและสวัสดิการที่ดี เพราะทุกตัวเมื่อนำมาเลี้ยงดูแล้ว ต้องดูแลตลอดชีวิต ยากมากที่จะเอาไปปล่อยคืนป่า เพราะปล่อยไปก็ตายหมด ทั้งนี้มีภาคเอกชน ร่วมทำโครงการบริจาคผักผลไม้ และอาหารมาดูแล เช่น ห้างแม็คโคร บริจาคผัก ผลไม้ ที่ขายไม่ได้แล้วสัตว์สามารถกินได้มาให้ แต่อาหารเหล่านั้น ก็เป็นเพียงอาหารที่เข้ามาเสริม ไม่ใช่อาหารหลักแต่อย่างใด

“สัตว์ใหญ่ๆ อย่างพวก เสือ และหมี ต้องกินเนื้อ เช่น เสือต้องกินเนื้อวันละ 5 กก.ไม่รวมวิตามิน การตรวจสุขภาพประจำปี ดูแลแล้ว ต้องดูแลให้ดี มีสุขภาพแข็งแรง ตอนนี้กรมอุทยานฯ ได้ทำโครงการ พ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า เปิดโอกาสให้คนรักสัตว์ บริจาคเงินสำหรับซื้ออาหารสัตว์ป่าที่กรมอุทยานฯ ดูแลอยู่ โดยสามารถบริจาคเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เลขที่บัญชี 980-216-5379 ชื่อบัญชีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เพื่อนำมาเป็นค่าอาหาร ค่าปรับปรุงซ่อมแซมกรงเลี้ยงหรือปรับภูมิทัศน์กรงเลี้ยงให้สัตว์ป่าเคราะห์ร้ายเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น” นายรัชฎา กล่าว