ไม่เกินความคาดหมายกับเกมการเมืองที่ใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นจุดวัดพลังขั้นแตกหัก ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร รอบนี้ 22 พ.ค.-18 ก.ย. นี้ 4 เดือนจากนี้ ดุเดือดแน่นอน สำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต้องลุ้นพลิกคว่ำพลิกหงาย ที่จ่อคิวเรียงหน้าถล่ม โดยเฉพาะการกุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรแบบเบ็ดเสร็จ เพราะในการโหวตกฎหมายฉบับสำคัญๆ ก็หืดขึ้นคอ ยิ่งชัดเจนจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงต้นเดือน ก.ย.64 จาก “กบฏธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในขณะนั้น เจอเล่ห์กลซ่อนคะแนน ที่ฝ่ายรัฐบาลต้องวิ่งล็อบบี้กันแบบนาทีต่อนาที ทำเอาไร่กล้วยหมดไปหลายไร่

แค่ประเดิมเปิดสภารอบนี้ มีคิวเสียวลุ้นระทึกแทบทุกเดือน เฉพาะแค่ด่านแรกกับคิวการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 ในวาระแรก ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.65 ที่ตอนนี้ พรรคเพื่อไทย ส.ส.กลุ่ม 16 อย่างพรรคเล็ก รวมถึง “ผู้กองคนดัง” ร.อ.ธรรมนัส ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ส่งสัญญาณรวมพลังคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ในวาระแรก

โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในวันที่ 25 พ.ค.65 ระบุว่า “การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ถือเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล แม้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะไม่ผ่าน ก็สามารถใช้งบประมาณเดิม คือ พ.ร.บ.งบปี 65 ไปพลางก่อน เว้นแต่เป็นเรื่องงบลงทุนที่จะสร้างใหม่ ดังนั้นแผนงานโครงการต่างๆ ที่เป็นเรื่องประจำก็สามารถทำได้ต่อ แต่ไม่อนุญาตให้เอาไปลงทุนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ชอบ ถ้าหากปล่อยไปอาจจะกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากกว่า ดังนั้นจึงทางเลือกที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะการไม่ให้ผ่าน อาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณแทน”

“ผู้นำฝ่ายค้าน” ขู่ชัดๆ “งบไม่ผ่านอาจดีกว่าให้รัฐบาลชุดนี้ใช้” ส่วนกรณี “ผู้กองธรรมนัส” และพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ชัดเจน ไม่ต้องไปชวนมาเป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะ “ไม่ต้องดีล เขามาเอง”

เพราะรอยร้าวในพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรค ต้องกลายเป็น “คนนอก” ทันทีจากปมร้าว หนุน-ไม่หนุน “บิ๊กตู่” และปมการจัดวางผู้สมัคร ส.ส. จนทำให้กรรมการบริหารพรรค 15 คน สาย “ผู้กองธรรมนัส” ประกาศลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ดัน “ผู้กองธรรมนัส” ผงาดขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงแบบเต็มตัว ยึดพรรคแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องเกรงใจ “พลเอก” หน้าไหนอีกแล้ว

ซึ่งการที่ “ผู้กองธรรมนัส” กลายมาเป็นพยัคฆ์ติดปีก โดยมี ส.ส.16 คนอยู่ในมือแบบเบ็ดเสร็จ ประกาศ “มีโลกใบใหม่” พร้อมจุดยืน “โหวตซักฟอก-งบประมาณปี 66” ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก อีกทั้ง “ผู้กองธรรมนัส” ยังเป็นอดีตคนเลี้ยงลิง มีบรรดาพรรคเล็กสายตรง พร้อมลุยไปด้วยกัน ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเมืองในเทศกาล “สู้แล้วรวย”

หมากเกมนี้ “บิ๊กตู่” และบริวาร ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ต้องออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ เพราะผลงาน “กบฏธรรมนัส” เกือบทำสำเร็จ งานนี้ “บิ๊กตู่” ต้องใช้บริการ “พี่ใหญ่” ว่าจะสามารถสยบ “พยัคฆ์ติดปีก” ได้หรือไม่ อีกทั้งจะเป็นการพิสูจน์ข้อกังขาแผน “โค่นตู่ ชูป้อม” จากดีลลับ “ดูไบ” ในการเป็น “นายกฯ สำรอง” ด้วย.