เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ที่โรงแรมอิมพีเรียล โตเกียว กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ร่วมหารือกับ นายมาเอดะ ทาดาชิ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) และ นายมุราอิ ฮิเดกิ ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างการเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ 26-27 พ.ค. 2565

โดยทั้งสองฝ่ายต่างเชื่อมั่นในความเป็นพันธมิตรที่สำคัญของไทย-ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี หวังว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนไทยในสาขาความร่วมมือต่างๆ โดยไทยมีที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางอาเซียน จึงอยากให้ไทยมีความเข็มแข็ง โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ เพื่อที่จะได้ร่วมดูแลประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนให้เติบโตและเข้มแข็งไปด้วยกัน

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายโทคุระ มาซาคาสึ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น และนายซูซูกิ โยชิฮิสะ ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการแพร่ระบาดของโควิด-19

ต่อมาช่วง 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ‘ทีมประเทศไทย’ ประจำกรุงโตเกียว ที่โรงแรมพาเลซ โฮเทล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แม้จะยากแต่ต้องทำให้ได้ ต้องคิดใหม่นอกกรอบ ให้เห็นในศักดิ์ศรีความเป็นไทยส่วนการทำงานใดก็ตาม จะมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และฝ่ายที่มีข้อตกลงเสมอ แต่จะทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากทุกข้อตกลง เพราะไทยเป็นสมาชิกเกือบทั้งหมด จึงอย่าให้ใครนำไปบิดเบือน คนไทยเองก็ต้องเข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ที่อ่านกระดาษเปล่าบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ว่า “นายกฯ อ่านหนังสือ ยังนำรูปไปวิพากษ์วิจารณ์ได้ หาว่านายกฯ แทนที่จะอ่านหนังสือเตรียมประชุม ทั้งที่ความจริง หนังสือที่อ่านเป็นหนังสือของสายการบินที่วางไว้ ก็หยิบขึ้นมาดู ส่วนแฟ้มการประชุมก็วางไว้ใกล้ๆ กัน ไม่เข้าใจทำไมหาเรื่องว่านายกฯ ได้ทุกเรื่อง ไม่รู้เป็นอะไรกัน บ้านเมืองประเทศไทย”