เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำพิพากษาในคดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต สส 1/2565 ให้เลือกตั้งส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ใหม่แทนนายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (ปัจจุบันย้ายสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย) ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มาตรา133 ภายหลัง กกต.มีมติยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ใหม่ เนื่องจากพบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจะเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายวัฒนา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 73(1)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก กกต. ได้รับคำร้องจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัครส.ส.เขต 4 พรรคเสรีรวมไทยขณะนั้น ยื่นคำร้องภายหลังการเลือกตั้งและได้มีการส่งคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ซื้อเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวเป็นหลักฐาน ซึ่งจากการสอบสวน กกต.เห็นว่า วันที่ 19 มิ.ย. 2563 ที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง นางเกี๋ยงมา ปุพพโก ได้มอบธนบัตรซึ่งเย็บติดกัน จำนวน 2 ชุดชุดละ 300 บาท ให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจริง

โดยจากการตรวจสอบคลิปวิดีโอประกอบคำร้อง และฟังได้ว่า นางเกี๋ยงมาให้เงิน จำนวน 600 บาท กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับนายวัฒนา จึงเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านางเกี๋ยงมาทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจะเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายวัฒนา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 73(1) โดยนายวัฒนาได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนางเกี๋ยงมา เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2563 ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

ทำให้กรณีมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ใหม่แทนนายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 133 และให้ดำเนินคดีอาญากับนางเกี๋ยงมา ปุพพโก ตามมาตรา 73(1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน.

ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 105 ประกอบมาตรา 102 ระบุว่าเมื่อตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลง ให้ดําเนินการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตําแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงหรือวันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาซึ่งคาดว่ากกต.จะกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค. 2565 และให้วันที่ 9  -13 มิ.ย. 2565 เป็นวันสมัครรับเลือกตั้งซึ่งการเลือกตั้งใหม่นี้ นายวัฒนายังคงสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ได้ ไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง.