เมื่อวันที่ 27 พ.ค. จากกรณี นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ ทิดไพรวัลย์ ประกาศกลางเฟซบุ๊กตัดขาด หมอปลา หลังจับมือ กัน จอมพลัง เข้าขอขมา หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นครปฐม ลั่นเสียความรู้สึก รู้งี้ไม่ขับรถไปหาที่บ้านให้เสียเวลา ต่อมา หลวงพี่น้ำฝน เผยผ่านสื่อ อาตมาไม่ได้ให้ค่า และไม่ได้ให้ราคา เคยทำอะไรให้ศาสนาบ้าง ทำประโยชน์อะไรให้สังคมบ้าง ว่าคนนั้นคนนี้เลว ไม่เคยดูตัวเอง ด่ากราดและทำคอนเทนต์ขายของ

เสียความรู้สึก! ‘ทิดไพรวัลย์’ ตัดขาด ‘หมอปลา’ หลังโผล่ขอขมา ‘หลวงพี่น้ำฝน’

ล่าสุด นายไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอกกลับ “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ระบุว่า ดิฉันพูดทุกอย่างด้วยหลักการและเหตุผลค่ะ คุณเป็นมนุษย์ห่มเหลือง บวชอุทิศพระรัตนตรัย เป็นหน่อเนื้อเชื้อไขของพระศาสนา ว่างๆ ช่วยตักน้ำใส่กะลาแล้วชะโงกหน้าถามตัวเองบ้างนะคะว่า กิจหลายๆ อย่างที่ทำอยู่ ถูกและตรงตามหลักพุทธศาสตร์มากน้อยแค่ไหน เป็นสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า หรือสงฆ์สาวกของใคร?

แค่เจิมหน้าผากผู้หญิง ลง นะ ลง นี นี่ก็เป็นอเนสนากรรมแล้วค่ะ บวชมาจนเป็นพระเถระแล้ว ธรรมะมากน้อยเคยซึมซับผ่านชายผ้าเหลืองเข้าจิตใจบ้างไหมค่ะ พระไตรปิฎกในตู้ที่วัด เคยหยิบมาเปิดอ่านบ้างหรือเปล่า หรือไว้แค่ประดับให้สวยงาม เป็นภิกษุ ต้องมีลัชชีธรรมค่ะ มีความละอายในจิตใจมากกว่าชาวบ้าน ธรรมะต้องขัดต้องเกลา ไม่ใช่กายเป็นพระแต่ใจหยาบกระด้าง อันนี้ต่อให้บวชจนตายคาผ้าเหลือง ก็ไม่ได้อานิสงส์ผลบุญอะไรหรอกค่ะ

ดิฉันขายของได้โดยไม่จำเป็นต้องด่าใครเพื่อหาคอนเทนต์ค่ะ แต่ที่ดิฉันจำเป็นต้องพูดถึงหมอปลา เพราะดิฉันนับถือเขา และพระพุทธเจ้าสอนว่า คนเป็นกัลยาณมิตร ต้องรู้จักสะกิดเมื่อมิตรทำผิดพลาด ดิฉันถือหลักการข้อนี้ค่ะ ส่วนมนุษย์ห่มเหลืองแบบคุณ ดิฉันก็ไม่เคยให้ราคาเหมือนกันนะคะ นี่อยากบอกให้ชัดอีกที เพราะกิจที่คุณทำหลายอย่าง มันห่างไกลกับความเป็นภิกษุในพระศาสนาค่ะ

เป็นฆราวาส ขายของไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม นี่เป็นเรื่องสัมมาอาชีวะนะคะ แต่เป็นพระ เป็นนักบวชแล้วปลุกเสก เจิมนั้นเจิมนี่ ขายกระเป๋า ขายผ้าพันคอ เขาเรียกว่า ประพฤติอนาจาร ย่ำยีพระธรรมวินัยค่ะ เป็นพวกอธรรมวาที อวินยวาที พระพุทธเจ้าสาป พระประเภทนี้นะคะ นี่อยากจะเตือนในฐานะอุบาสกคนหนึ่ง