“เทเลกราฟ” สื่อดังในประเทศอังกฤษ รายงานว่า หลายฝ่ายมีความกังวลกับสภาพพื้นสนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ สังเวียนแข้งนัดชิงชนะเลิศศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ รีล มาดริด ในวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. นี้ เนื่องจากเพิ่งมีการปูพื้นหญ้าใหม่ก่อนเกมแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

ทั้งนี้ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เพิ่งตัดสินใจโยกเกมนัดชิงดำซีซั่นนี้ จากเครสตอฟสกี สเตเดี้ยม ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย มาลงที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บวกกับการที่มีงานอีเวนต์ที่คั่งค้างมาจากช่วงที่โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ฝ่ายจัดการสนามต้องเจอคิวการจัดงานที่อัดแน่น โดยล่าสุดสนามยักษ์ชานกรุงปารีส เพิ่งใช้จัดงานคอนเสิร์ตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเดิมทีสนามจะมีคิวใช้งานอีกครั้งคือเกมของทีมชาติฝรั่งเศส ในเกมเนชั่นส์ ลีก กับ เดนมาร์ก ในวันที่ 3 มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม การที่ ยูฟ่า เลือกโยกเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแข่งขันกันที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ส่งผลให้ทีมงานมีเวลาในการเตรียมสภาพสนามให้พร้อมสำหรับการแข่งขันเกมสำคัญระหว่าง “หงส์แดง” กับ “ราชันชุดขาว” โดยการปูหญ้าพื้นสนาม ซึ่งมีหญ้าเทียมผสมอยู่ด้วยเป็นจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้น เพิ่งเสร็จสิ้นในเวลา 01.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นเท่านั้น

เบอนัวต์ ลาวัลลี ประธานบริหารของ “ไอเทิร์ฟ แมเนจเมนต์” ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการดูแลพื้นหญ้าให้กับ 4 สนามในแดนน้ำหอม ซึ่งรวมถึง สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ด้วยนั้น กล่าวว่า “เดิมทีเราพร้อมที่จะปูพื้นให้เสร็จสิ้น โดยใช้เวลาราว 4-5 วัน แต่พอมีโปรแกรม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศเข้ามา เราต้องเจอกับความท้าทายมากกว่าเดิม และต้องปูพื้นสนามให้เสร็จภายในเวลาแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น”

เครดิตภาพ : Getty Images