เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 28 พ.ค. ร.ต.อ.ธนกฤต หลงสวัสดิ์ พงส.สภ.อ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งอุบัติเหตุ รถไฟพุ่งชนรถยนต์มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยหลังสวน ตำรวจสายตรวจรถยนต์ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ทางถนนตัดรางรถไฟ บ้านสถานีเก่า หมู่ที่ 9 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูเหตุการณ์

จากการตรวจสอบพบว่า ริมทางรถไฟ มีรถเก๋งฮอนด้า รุ่น CRV สีขาว ทะเบียน กท 344 ชุมพร ในสภาพด้านหน้า ฝั่งผู้โดยสารพังยับเยิน รวมถึงตัวรถพังยับ ทรัพย์สิน ชิ้นส่วนของรถหล่นเกลื่อนบริเวณที่เกิดเหตุ ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ  2 ราย หน่วยกู้ภัยหลังสวน จึงได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.หลังสวน แต่เสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์ 1 ราย

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ รถไฟขบวนรถท้องถิ่น ชุมพร-หาดใหญ่ ออกจากสถานีรถไฟหลังสวน มาได้เพียงไม่กี่นาที เมื่อถึงทางรถไฟตัดกับทางรถยนต์ซึ่งไม่มีเครื่องกั้น มีเพียงป้ายบอกทางตัดทางรถไฟเท่านั้น พนักงานขับรถไฟสังเกตเห็นรถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับข้ามทางตัดรถไฟ จึงส่งสัญญาณแตรดังยาว และดึงห้ามล้อรถไฟ แต่รถยนต์คันดังกล่าวคงไม่ได้ยินเสียง ยังคงขับขึ้นสู่รางรถไฟ ทำให้รถไฟพุ่งชนด้านที่นั่งผู้โดยสารอย่างแรง รถยนต์พลิกคว่ำหลายตลบ จนตกลงไปข้างทาง  ส่วนรถไฟไม่ได้รับความเสียหาย เมื่อหยุดรถ ได้เห็นมีชาวบ้านวิ่งมาให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในรถยนต์ จึงออกเดินทางต่อไป

ในขณะที่ภายในรถเก๋ง มี นายพยุงศักดิ์ นิลสุข อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 9 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนในที่นั่งผู้โดยสาร มี น.ส.ปิยะมาศ นิลสุข อายุ 16 ปี น้องสาว เสียชีวิต

สอบถามได้การว่า ในช่วงเช้า นายพยุงศักดิ์ พี่ชายได้ขับรถออกจากบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับรางรถไฟสายใต้ เพื่อไปส่ง น.ส.ปิยะมาศ ที่จะไปเรียนพิเศษ แต่ออกจากบ้านได้เพียง 2 นาที ชาวบ้านใกล้รางรถไฟได้ยินเสียงรถไฟส่งสัญญาณแตรดังยาว และมีเสียงชนดังสนั่น เมื่อหันไปดูพบว่า รถไฟได้ชนรถยนต์แล้ว จึงรีบแจ้งตำรวจ ส่วนสาเหตุที่รถยนต์วิ่งขึ้นไปตัดหน้ารถไฟนั้น ตรวจสอบว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถแบบเกียร์ออโต ที่เกียร์ยังค้างอยู่ที่ D ซึ่งเป็นไปได้ว่า คนขับอาจไม่ชำนาญในการใช้รถเกียร์ออโต อาจจะเยียบคันเร่งแทนเบรกก็เป็นไปได้ เพราะบริเวณดังกล่าว เป็นที่โล่งสามารถมองเห็นรถไฟได้ในระยะไกล คนขับน่าจะมองเห็นรถไฟแล้ว แต่แทนที่จะเยียบเบรก กลับไปเยียบคันเร่ง จึงทำให้รถยนต์พุ่งขึ้นตัดหน้ารถไฟ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสอบสวนนายพยุงศักดิ์ พี่ชายผู้ตายที่ยังอยู่ในอาการช็อก ไม่ยอมพูดจากับใครทั้งสิ้น คงต้องให้อาการเสียใจดีขึ้นจะได้สอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป