เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พ.ค.ที่คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ จ.ปทุมธานี สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคุณแม่ดาราสาวแตงโม-นิดา กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องโพสต์เตือนหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บังเเจ็ค ว่า ตนอยากเตือนว่าก่อนจะว่าคนอื่นเป็นมิจฉาชีพ มองตัวเองหรือยัง เพราะต้องถือว่าบังเเจ็คเป็นคนกล้ากู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ เเละตนจำเป็นต้องออกมาพูด ตนต้องปกป้อง เพราะถือว่าบังเเจ็ค เป็นผู้ตรวจสอบวัตถุพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้ากู้ข้อมูลให้เเม่  เเม่จึงมั่นใจส่งมือถือให้บังเเจ็ค อีกทั้งจะให้ความคุ้มครองบังเเจ็ค ในฐานะเป็นพยานในชั้นศาล หากบังเเจ็คเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็จะดูเเล รวมถึงประกันตัวในคดีที่บังเเจ็คเเจ้งความดำเนินคดีจนกว่าจะพ้นการเป็นพยานในชั้นศาลของคดีเเตงโม

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับสิ่งที่ตนโพสต์ในวันนี้ เป็นลักษณะเหมือนโพสต์เตือน หวังว่าพฤติกรรมของทนายความบางคนที่ออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับคดีของเเตงโม หากยังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ ตนก็จะไม่ปล่อยผ่าน ส่วนสาเหตุที่ลบโพสต์ไป เนื่องจากเป็นเพียงการโพสต์เตือนเท่านั้น เเละนายอัจฉริยะได้ชี้แจงให้ตนลบ เนื่องจากเนื้อหามีการพาดพิงถึงสื่อ ยืนยันจะไม่มีการฟ้องสื่อ เพราะสื่อถือเป็นกลาง เเละเป็นพยานได้

นายมงคลกิตติ์ ยังเผยอีกว่า ส่วนตัวได้พูดคุยกับ “หนุ่ม กรรชัย” เเล้ว ไม่ได้มีปัญหาใดๆ เเละจะไม่ฟ้องร้อง ซึ่งตนยังมีความสามารถเคลียร์คดีให้ “หนุ่ม กรรชัย” ได้ด้วย

ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า ก่อนหน้านี้ช่วงที่ตนลงพื้นที่สืบหาพยานหลักฐานในคดีเเตงโม มีคนสนิทของหนึ่งในเเก๊งเรือสปีดโบ๊ท ได้ติดต่อตนมา โดยบอกว่าจะนำเงินมาวางไว้ให้ที่หน้าบ้านจำนวน 15 ล้านบาท ตนมองว่าน้อยเกินไปไว้มีถึง 5 พันล้านบาท ค่อยมาคุยกัน

นายมงคลกิตติ์ เผยอีกว่า เพจ CSI LA ติดต่อมาพูดคุยกับตน ว่าตนไปเข้าข้างบังแจ็ค และตนทราบว่าน้องแอดมินคนนี้อยู่พรรคการเมืองหนึ่ง ได้มีการจดเว็บไซต์อยู่ที่ต่างประเทศ คอยโจมตีรัฐบาล ก็ขออย่าให้ตนต้องสั่งทีมงานดำเนินคดีเลย เดี๋ยวน้องจะอยู่ไม่ได้

นายมงคลกิตติ์ ยืนยันว่า ไม่ได้ไว้ใจบังแจ็ค แต่ต้องดูแลเขาในฐานะผู้ตรวจสอบพยานวัตถุหลักฐานในชั้นศาลไปก่อนและถ้าส่งมอบโทรศัพท์แตงโมให้ สอท. และถ้าพบว่าตำรวจเป็นคนลบภาพในเครื่องแตงโม ตนจะเก็บไว้ไม่เอาเรื่องนอกจากนี้ ตอนขึ้นไปทำพิธี ตนได้แตะโกศของน้องแตงโม แล้วขอให้น้องไปอยู่สวรรค์ ส่วนทางคดีเดี๋ยวตนเคลียร์ให้ส่วนรูปที่มี ที่สังคมถามว่าทำไมไม่เปิดออกมา ตนก็ขอชี้แจงว่า ถ้าเปิดออกมาเดี๋ยวโดนฟ้อง จากโจทย์จะกลายเป็นจำเลย ขอเปิดในชั้นศาลดีกว่า และหลักฐานที่มีในตอนนี้ สามารถโยงไปถึงคดีฆาตกรรมได้พอสมควร

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า ถ้าบังแจ็คตลบหลัง กลับมาโพสต์หรือทำอะไรกระทบกับคดีจะทำอย่างไร  นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า “ถ้าเป็นน้องที่ดีของพี่จะปลอดภัย พี่จะเคลียร์ให้ แต่มีพี่เป็นศัตรู เยี่ยวเหนียวนะ”