เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนที่เดินชมบรรยากาศทะเลบริเวณชายหาดบ้านหน้าทอน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่าพบซากเต่าทะเลขนาดใหญ่ตายถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว โดยเต่าตัวดังกล่าวเป็นเต่าตนุที่มีขนาดใหญ่ ความยาวของกระดองยาวประมาณ 120 เซนติเมตร น้ำหนักตัวประมาณ 90 กิโลกรัม

ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย และเจ้าหน้าที่กู้ชีพและช่วยชีวิตทางน้ำ ได้เดินทางมาถึงพร้อมตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุการตายของเต่าตนุ จากการตรวจสอบพบซากเต่าตนุดังกล่าวเป็นเพศเมีย คาดว่ามีอายุกว่า 30 ปี อยู่ในสภาพที่เน่าเปื่อย บริเวณส่วนหัวถูกสัตว์ทะเลแทะเหลือแต่กะโหลก และขาหน้าด้านซ้ายและขวาเปื่อยใกล้จะหลุดจากตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่พบแท็กที่ระบุการขึ้นทะเบียน หรือระบุที่มาของเต่าตนุขนาดใหญ่ตัวดังกล่าว ตรวจสอบตามลำตัวไม่พบบาดแผลที่จะทำให้เป็นสาเหตุการตายของเต่าตนุ

สำหรับการตายของเต่าตนุตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากกินอาหารที่เป็นพิษ หรือกินถุงพลาสติก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำซากเต่าตนุไปทำการฝังบริเวณสุสานวัดแจ้งนอก พร้อมประสานศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร เพื่อมาทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย และหาแนวทางการแก้ปัญหาเต่าทะเลตายต่อไป

สำหรับเต่าตนุที่พบครั้งนี้เป็นตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าทุกครั้ง และจากต้นปี 2565 เจ้าหน้าที่พบซากเต่าตนุตายมาเกยชายหาดแล้วรวม 3 ตัว สำหรับถิ่นอาศัยและการแพร่กระจายพบในเขตร้อนและกึ่งร้อน ตามแนวชายฝั่งรวมถึงพบตามเกาะต่างๆ ที่เงียบสงบ และจะพบได้ตามแหล่งหญ้าทะเล สำหรับประเทศไทยพบการแพร่กระจายของเตาตนุในธรรมชาติ ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน