จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับรถแท็กซี่และไรเดอร์ส่งอาหารบริษัทแห่งหนึ่ง โดยในคลิปปรากฏภาพชายโชเฟอร์แท็กซี่มีอายุ ผมยาว ถือมีดปลายแหลมลักษณะเหมือนจะเข้าทำร้ายและใช้วาจาข่มขู่คู่กรณี เหตุเกิดที่บริเวณถนนศรีอยุธยา ท้องที่ สน.พญาไท นั้น

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ตำรวจ สน.พญาไท คุมตัว นายสมศักดิ์ อายุ 72 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ที่ถือมีดไล่แทงไรเดอร์มาสอบสวนที่ สน.พญาไท หลังตำรวจได้ไปติดตามที่อู่รถแท็กซี่ ย่านบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และประสานให้เข้าพบตำรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง

เบื้องต้นนายสมศักดิ์ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาจะนำมีดมาไล่แทงคู่กรณี แต่อ้างว่าผู้เสียหายจะเอาหมวกกันน็อกเข้ามาทำร้าย จึงหยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่ในรถออกมาเพื่อป้องกันตัว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ขับรถเฉี่ยวชนรถผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับเรื่องที่นำอาวุธมีดลงมา

ด้าน นายสุภกิณห์ อายุ 24 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.พญาไท เนื่องจากต้องการให้คู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่คู่กรณีปฏิเสธจะพูดคุยด้วย และรีบเดินออกจากสถานีตำรวจไปทันที

นายสุภกิณห์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนกับแฟนสาวกำลังขี่แกร็บ และเสร็จจากการส่งอาหารในบ้านพักรถไฟ ออกจากซอยกำลังรอเลี้ยวเข้าถนนพระราม 6 โดยรถจักรยานยนต์ของตนออกมาอยู่กลางถนนแล้วครึ่งคัน และรถทางตรงคันอื่นก็เบี่ยงหลบให้ แต่เมื่อมาถึงแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทษ 5138 กรุงเทพมหานคร ของคู่กรณีกลับเบี่ยงเข้ามาชนที่บริเวณล้อหน้าของรถ ลักษณะเหมือนเจตนาชน จนเบี้ยวผิดรูป ก่อนที่รถแท็กซี่คันดังกล่าวจะพยายามขับหลบหนี ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปและใช้มือทุบกระจกรถแท็กซี่เพื่อเรียกให้จอดมาเจรจา แต่เมื่อคนขับแท็กซี่ลงจากรถก็ถืออาวุธมีดลงมาด้วย และพุ่งตรงเข้ามาหาในลักษณะจะไล่แทง ตนจึงถอยหนีตั้งหลัก ซึ่งหากไม่หนีอาจจะถูกแทงไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปทำร้ายคู่กรณีก่อน เพียงถอดหมวกกันน็อกออกเพื่อที่จะพูดคุยเท่านั้น

ขณะที่ น.ส.ปภาดา แฟนสาวของผู้เสียหาย ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุได้เรียกให้คนเข้ามาช่วย เมื่อมีคนเริ่มมามุงเยอะ คนขับแท็กซี่ก็กลับไปเก็บมีดที่รถก่อนจะกลับมาโต้เถียงกันอีกครั้ง โดยท้าทายให้เรียกตำรวจ อีกทั้งยังผลักตนอย่างแรงจนเซ พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยห้ามบอกให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ แต่คนขับแท็กซี่กลับขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป

ทั้งนี้ผู้เสียหายยืนยันว่าต้องการให้คู่กรณีชดใช้ค่าซ่อมรถ ซึ่งปัจจุบันนี้รถจักรยานยนต์แผงคอคด ล้อคด และโช้คเบี้ยว อยู่ระหว่างเข้าซ่อมที่อู่รถ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาคนขับรถแท็กซี่ ฐานพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะ และถูกปรับเป็นเงิน 500 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ขนส่งได้นำตัวโชเฟอร์แท็กซี่ไปเข้าโครงการอบรมพฤติกรรม และพิจารณาตัดแต้มการกระทำผิดจราจรทางบก ส่วนคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความก็จะมีการนัดไกล่เกลี่ยเจรจาค่าเสียหายกันภายหลัง