เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พอใจภาพรวมวันแรกของการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 โดยในส่วนของรัฐบาลใช้เวลาได้คุ้มค่า ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ร่าง พ.ร.บ.งบฯ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนประเทศ นำมาใช้พัฒนาฟื้นฟูประเทศในทุก ๆ ด้านจึงขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าการใช้งบประมาณของรัฐบาลยึดหลักกรอบวินัยการเงินการคลังเป็นสำคัญ รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้มีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว

“นายกรัฐมนตรีหวังให้การอภิปรายฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ขอให้ทุกท่านในสภาฯ ทำหน้าที่ของตัวเองทั้งในการชักถาม และชี้แจงประเด็นที่เป็นประโยชน์สร้างการรับรู้ ขออย่าใช้เวทีการอภิปรายฯ สร้างความสับสน เพื่อหวังผลทางการเมือง” นายธนกร กล่าว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า ภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาของฝ่ายค้านและรัฐบาล ราบรื่นดี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการประท้วงพอสมควร แต่ไม่ได้เสียบรรยากาศ การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านมีการนำเสนอข้อมูลที่ดี เป็นกลุ่ม ส.ส.ที่อภิปรายเรื่องภาพรวมการใช้งบและเจาะจงการใช้งบประมาณไปแต่ละด้าน แต่ยังไม่ 100% ต้องรอวันนี้และวันพรุ่งนี้

นายสุทิน กล่าวว่า การตอบของรัฐบาล ถือว่าหลีกเลี่ยงและใช้เทคนิคการตอบไม่ตรงประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศ ที่รัฐบาลประมาณว่าจะเติบโตร้อยละ 3.5-4 แต่จากการประมาณการของหน่วยงานอื่นๆ อยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.5 เท่านั้น จึงน่าเป็นห่วงข้อมูลของรัฐบาลในการชี้แจงที่มักอ้างฐานตัวเลขในประเทศเท่านั้น โดยที่ไม่เทียบกับต่างประเทศ จึงมองว่าเป็นการประมาณเติบโตที่ผิด ซึ่งถ้าสมมุติฐานผิด ก็จะเกิดความผิดพลาดในการบริหารงบประมาณ อีกทั้งทำให้ประชาชนเข้าใจสาระที่ผิด

นายสุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การชี้แจงของรัฐบาลเรื่องการส่งออกยอมรับว่าดีขึ้น แต่ถ้าไปดูข้อมูลจริงๆ แล้ว ก็ยังอยู่อันดับท้ายๆ ของอาเซียน ดังนั้นเมื่อรัฐบาลใช้ข้อมูลในประเทศเท่านั้น จึงเปรียบเป็น “กบในกะลาครอบ” แต่ถ้าเปิดกะลาออกไปดู ประเทศไทยยังมีอะไรต้องทำอีกมากมาย ส่วนการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาล ยังไม่มีสัญญาณที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ก็ยังคงยืนยันคว่ำร่างอยู่ แต่สุดท้ายถ้าร่าง พ.ร.บ.งบฯ ผ่าน ฝ่ายค้านก็ต้องไปร่วมเป็นกรรมาธิการ เพราะถ้าไม่ไปก็จะเสียหายหนัก ส่วนจะแก้มากแก้น้อยก็ต้องทำ ไม่ใช่บอยคอต.