เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ วิริยะ พร้อมด้วย น.ส.ชลวิภา วิริยะกุล หรือทนายเฟิร์น เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อให้ปากคำในคดีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ ที่แอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ สีกาตอง ขณะยังอยู่ในผ้าเหลือง และทำหน้าที่เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งเรื่องเริ่มแดง จึงเบิกเงินวัด 6 แสนบาท ไปปิดข่าวฉาวดังมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต้องสึกพ้นจากความเป็นพระ

“อดีตพระกาโตะ”ผันตัวเป็นพ่อค้าออนไลน์ ยอดขายปังทีเดียว500ออร์เดอร์

นายวิริยะ เปิดเผยว่า วันนี้มาให้ปากคำตามหมายเรียกของตำรวจในฐานะพยาน เนื่องจากก่อนหน้านี้สีกาตองได้ติดต่อมาให้ตนไปออกรายการโหนกระแสด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดการของสีกาตองหรืออยู่เบื้องหลัง รวมทั้งก่อนหน้าที่จะเกิดข่าวอื้อฉาวของสีกาตอง กับอดีตพระกาโตะ ตนก็ไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้ เพิ่งมารู้เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ให้คำปรึกษาและตักเตือนสีกาตองไป พร้อมยังแนะนำให้ออกมาขอโทษสังคมด้วย

อุ๊บ วิริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลที่ให้การกับตำรวจ จะชี้แจงถึงความจริงที่เกิดขึ้น และยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เคยให้การสนับสนุน ที่ผ่านมาเพียงแค่ให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆ เท่านั้น ถ้าตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินก็ไม่ขัดข้อง เพราะตัวเองก็ถูกกล่าวพาดพิงและต่อว่า ซึ่งตนแยกแยะได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก และกำลังจะปรึกษาทนายความให้ดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น อย่างไรก็ตามคงไม่ตัดขาดจากสีกาตอง และเคยมีความตั้งใจจะร่วมงานกัน แต่มาเกิดเรื่องดังกล่าวเสียก่อน

แค่คิดก็อุบาทว์แล้ว! ‘อุ๊บ วิริยะ’ ยันไม่สร้างหนัง ให้ ‘กาโตะ-ตอง’ เล่นชัวร์

น.ส.ชลวิภา กล่าวว่า มาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากอดีตพระกาโตะแจ้งความสีกาตอง เรื่องการรีดเอาทรัพย์ ซึ่งอดีตพระกาโตะน่าจะได้มีการแจ้งข้อมูลว่าสีกาตองมีการปรึกษากับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และ นายวิริยะ จึงเป็นที่มาของการเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการดำเนินคดีความระหว่างสีกาตองกับอดีตพระกาโตะอย่างไรนั้น ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว เพราะนายวิริยะ ไม่ใช่ผู้สนับสนุนหรือผู้อยู่เบื้องหลัง