เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ อ.185/2559 ระหว่างพนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด โดย นายเจอรัลด์ มาโกลีส ผู้จัดการสาขา บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 8 ราย ในข้อหา สำแดงราคานำเข้าบุหรี่เป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร

โดยอัยการโจทก์ฟ้อง สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.ค.46-24 มิ.ย.49 บริษัท ฟิลลิปฯ กับพวก ได้ร่วมกันนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร (MARLBORO) และยี่ห้อ แอลแอนด์เอ็ม (L&M) เข้ามาในราชอาณาจักร และร่วมกันบังอาจสำแดงเท็จโดยฉ้อโกงและออกอุบายด้วยการยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร กรมศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร โดยสำแดงราคาอันเป็นเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดทั้งสิ้น 272 ครั้ง โดยรวมราคาของสินค้าบุหรี่บวกกับราคาภาษีอากร ที่หลีกเลี่ยงเป็นเงินทั้งสิ้น 20,210,209,582.50 บาท (สองหมื่นล้าน สองร้อยสิบล้านสองแสนเก้าพันห้าร้อยแปดสิบสองบาทห้าสิบสตางค์)

คดีนี้จำเลยทั้ง 8 ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษปรับ 4 เท่าของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่มในทุกกระทงความผิดรวม 272 ซึ่งกระทง เป็นเงิน 1,225,990,671.50 บาท หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2-8

ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 สองเท่าครึ่งของค่าอากร ที่ต้องเสียรวม 272 กระทง เป็นเงิน 121,578,788 บาท และให้จ่ายสินบนแก่ผู้นำจับร้อยละ 30 ของค่าปรับ