วันนี้ (วันที่ 3 มิถุนายน 2565) นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึง ยอดการจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลตฟอร์มในวันแรกว่า ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น อาจจะเพราะเป็นการขายวันแรก เป็นเรื่องใหม่ จึงได้รับความสนใจ ที่สำคัญคือ สามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท โดยเมื่อวานนี้ หลังจากสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. มียอดจำหน่ายสลากฯ 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลากฯ 612,141 คน จากจำนวนสลากฯ ทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากฯ จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการให้สลากฯ แบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อวานนี้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากฯ ได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลากฯ สามารถซื้อได้อีกครั้ง ในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอพพลิเคชั่นได้ทันที นอกเหนือจากการซื้อสลากฯ จากโครงการ จุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุด ทั่วประเทศไทย ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับวิธีการขึ้นเงินรางวัลนั้น พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ เลือกรับโดยการโอนเงิน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอพพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และ ค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัลเพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากฯ แบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%  ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากฯ ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารกรุงไทย

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ ภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือดิจิทัล ที่ซื้อไว้จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้ง ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบ การโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากฯ ทุกคนไม่ต้องกังวล

พันโท หนุน ศันสนาคม กล่าวว่า การจำหน่ายสลากฯ ผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้ในการเร่ขาย ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบัน ประชาชนที่ซื้อสลากฯ ตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่า สลากฯ ทุกใบเป็นของพ่อแม่พี่น้องตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากฯ ได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย