เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอโอกาสนี้ ในการนำพี่น้องประชาชนไปรู้จักกับอาชญากรรมรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ว่าใครก็สามารถตกเป็นเหยื่อได้ ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ หรือ เพศทางเลือก ซึ่งอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวก็คือ Sexual Harassment หรือภาษาไทยคือ การคุกคามทางเพศ ซึ่งหมายถึง การกระทำหรือการแสดงออกในทางเพศ ทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม ผ่านการใช้สายตา ท่าทาง เสียง คำพูด ร่างกาย หรือสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าของการกระทำนั้น รู้สึกเดือดร้อนรำคาญ อึดอัด ไม่พอใจ เครียด หวาดระแวง หวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย โดยพฤติกรรมการคุกคามทางเพศสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 รูปแบบหลัก ดังนี้

1.การคุกคามด้วยคำพูดที่ไม่สมควร เช่น การพูดเกี่ยวกับเพศ เล่นตลกเกี่ยวกับเพศ ชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์ พูดถึงสัดส่วนของร่างกาย หรือพูดในลักษณะสองแง่สองง่ามในเรื่องเพศ

2.การคุกคามทางสายตา เช่น การจ้องมองไปยังบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกาย

3.การคุกคามทางร่างกาย เช่น การสัมผัสร่างกาย แตะเนื้อต้องตัว โอบกอด โอบเอว จับมือ จับขา เป็นต้น

4.การคุกคามโดยส่งข้อความ ผ่านจดหมายหรือผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การเขียนจดหมาย หรือส่งข้อความลามก ตลอดจนการส่งภาพ/คลิปลามก หรือภาพอวัยวะเพศให้กับเหยื่อ

5.การแอบถ่ายภาพ/คลิป ของเหยื่อในลักษณะลามก ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ใต้บันได ในรถขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

ทั้งนี้การคุกคามทางเพศนั้น ผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาจจะรู้สึกอึดอัดกับเรื่องดังกล่าว หรืออยู่ในฐานะที่ไม่อาจขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงได้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของบุคคลดังกล่าวเป็นอย่างมาก อีกทั้งการกระทำดังที่กล่าวมา อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายอีกด้วย อาทิ

1.กรณีการคุกคามทางวาจา คุกคามทางสายตา หรือคุกคามโดยการส่งจดหมายหรือข้อความ อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานกระทำให้อับอายหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญในลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคสอง และจะต้องรับโทษหนักขึ้นหากผู้กระทำมีอำนาจเหนือกว่าผู้ถูกกระทำ เช่น เป็นผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้าง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 วรรคท้าย

2.กรณีการคุกคามทางร่างกาย หรือการแอบถ่ายภาพ/คลิป อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานกระทำอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 และหากเหยื่อเป็นเด็ก หรือมีการใช้อาวุธ หรือส่งผลให้เหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต อาจต้องระวางโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แล้วแต่กรณี

3.การนำภาพ/คลิปลามกที่แอบถ่ายไปส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ อาจเข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือหากเป็นการส่งต่อภาพ/คลิปลามกเด็ก อาจเข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คำนึงและให้ความสำคัญผู้เสียหายทุกเพศทุกวัย จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงานสถานศึกษา หรือสถานที่อื่นๆ ไม่ว่าเหยื่อที่ถูกกระทำจะเป็นชาย หญิง หรือ เพศทางเลือกก็ตาม ขอให้ท่านอย่าเพิกเฉยหรือปล่อยผ่านการกระทำดังกล่าว เพราะจะทำให้ผู้กระทำความผิดได้ใจ และไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก จึงไม่สมควรให้บุคคลที่มีพฤติกรรมแบบนี้มีที่ยืนในสังคม โดยหากท่านตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป