เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย นำนายปิยวีร์ ศรีนิล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/101 หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายธีรภัทร ศิริรัตนพงษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/3 ถนนศรีสุข ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนซื้อโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ไม่ได้สลากฯ ตามที่ตกลงไว้ เข้าพบต่อ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หลังจากแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 64 ผ่านมา 6 เดือนแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า โดยมีการกล่าวอ้างว่า มีนักเมืองชื่อดังอยู่เบื้องหลัง
โดยนายปิยวีร์ และนายธีรภัทร ผู้เสียหายทั้งสองคน กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน ก.ย. 64 ได้ทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล กับนายวัฒนา (ขอสงวนนามสกุล) งวดประจำวันที่ 16 ต.ค. 64 และ วันที่ 1 พ.ย. 64 งวดละ 20 กล่อง หรือ 10,000 ใบต่องวด รวมเป็นเงิน 800,000 บาท โดยนัดส่งมอบสลากฯ ในวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเป็นงวดประจำวันที่ 16 ต.ค. 64 และวันที่ 20 ต.ค. 64 เป็นงวดประจำวันที่ 1 พ.ย. โดยได้โอนเงินค่าสลากฯ ให้นายวัฒนา แล้ว จำนวน 720,000 บาท เพราะแต่ละงวดมีราคาแตกต่างกัน แต่เมื่อถึงกำหนดวันรับสลากฯ ทั้ง 2 งวด นายวัฒนาไม่สามารถนำสลากฯ มาให้ได้ พวกตนจึงพยายามติดต่อขอรับเงินคืน แต่นายวัฒนาบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงเชื่อว่าถูกนายวัฒนา หลอกลวงแน่นอน จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 64 หรือ 6 เดือนที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่มีความคืบหน้า จึงเข้าขอความช่วยเหลือจากนายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิตะ และนายภานุมาศ จิตรวศิรกุล หรือเฮียเปี๊ยก ซึ่งได้นำเงินกงสีของครอบครัวมาลงทุน 3 งวด และโดนโกงไป 7.2 แสนบาท และนำเงินส่วนตัวมาลงทุน 4 งวด โดนโกงไป 5.4 แสนบาท
ผู้เสียหายทั้งคู่ กล่าวอีกว่า นายวัฒนา สร้างความน่าเชื่อถือโดยอ้างชื่อนักการเมืองใหญ่ท่านหนึ่ง บอกว่าตัวเองเป็นสายลอตเตอรี่บริษัทหนึ่ง ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถนำสลากฯ มาให้ได้ อ้างสาเหตุเพราะน้ำท่วมโคราชบ้าง ถูกยี่ปั๊วใหญ่โกงบ้าง พอทวงถามหนักเข้าก็หายไปเลย ทุกครั้งที่ขายได้ ก็จะบอกให้โอนเงินเพื่อจองงวดต่อไปทันที และชักชวนให้ลงทุนเพิ่มอีก เพราะมีสลากฯ หลุดมากว่า 10 กล่อง เมื่อหลงเชื่อ โอนเงินค่าสลากฯ และกำไรที่ได้ไปเป็นค่าสลากฯ ชุดใหม่ทั้งหมด ทั้งที่เพิ่งได้จับเงินแค่ 1 วันเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.จามร เปิดเผยว่า คดีลักษณะนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อุดรธานี มีผู้เสียหายหลายราย มีบุคคลถูกร้องเรียนว่าหลอกลวงให้จองโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกหลายคน ซึ่งมีพฤติการณ์คล้ายกัน บางรายได้เงินไปวงเงินกว่า 2 ล้านบาท และที่กล่าวอ้างว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังโควตานี้ หากสืบสวนสอบสวนจนพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน รับปากว่าจะเร่งรัดคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายทุกราย อยากฝากถึงประชาชนอีกครั้งว่า มิจฉาชีพสมัยนี้มีหลากหลายรูปแบบ มีหลากหลายวิธีการฉ้อโกง อยากให้ตระหนักว่าหากยังไม่ได้ของตามที่ตกลงอย่าเพิ่งโอนเงินหรือจ่ายเงิน ข่าวลักษณะนี้มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ เราต้องมีวิจารณญาณในเบื้องต้นก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกเหมือนหลายคดีที่ผ่านมา.
