เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2565 สภาเมืองลอสแอนเจลิส อนุมัติข้อเสนอให้งดเว้นการใช้เตาแก๊สตามบ้านและในเชิงพาณิชย์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทางลอสแอนเจลิสกำลังหาทางที่จะไปให้ถึงเป้าหมายของความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2588 ขณะที่เมืองอื่น ๆ กว่า 50 เมืองในแคลิฟอร์เนีย เช่น ซานฟรานซิสโก ซานตาบาร์บารา และซาคราเมนโต ได้ออกกฎหมายท้องถิ่นฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้อาคารที่ก่อสร้างใหม่จะต้องเป็นอาคารที่ปลอดการใช้แก๊สหรือสร้างตามมาตรฐานข้อบังคับด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว

กฎหมายอาคารฉบับใหม่นี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวงการธุรกิจอาหารในลอสแอนเจลิส โดยเฉพาะร้านอาหารเอเชีย ซึ่งเมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ปรุงจากการผัดด้วยกระทะจีน เตาแก๊สและเตาปิ้งย่าง ซึ่งจำเป็นต้องใช้แก๊สหุงต้มเป็นเชื้อเพลิง เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นตามต้นตำรับ ซึ่งไม่อาจทำได้ด้วยการใช้เตาไฟฟ้า รวมถึงร้านอาหารประเภทปิ้งย่างสไตล์เอเชีย 

ตามกฎหมายใหม่ที่มีจุดประสงค์เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ร้านอาหารจำเป็นต้องลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์การประกอบอาหารที่ใช้แก๊สหุงต้มแต่เดิมมาเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ขณะที่พ่อครัวทั้งหลายก็ต้องพยายามประยุกต์ใช้เทคนิคใหม่ ๆ ในการปรุงอาหารจากเครื่องใช้ไฟฟ้า

เมื่อปี 2562 สมาคมร้านอาหารแคลิฟอร์เนีย เคยร้องเรียนเทศบาลเมืองเบิร์คลีย์ ที่พยายามออกมาตรการเพื่อลดการใช้เตาแก๊สในร้านอาหาร โดยอ้างว่าร้านอาหารจำนวนมากในเขตเบย์แอเรีย ที่มีความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารนานาชาติชั้นเยี่ยม จะไม่สามารถเตรียมอาหารหรือปรุงอาหารตามความถนัดของตนได้ หากปราศจากการใช้เตาแก๊ส บรรดาพ่อครัวต่างได้รับการฝึกฝนโดยใช้เตาแก๊ส ซึ่งหากต้องเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์แบบอื่นจะส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าในการปรุงอาหาร รวมถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารได้ 

ปัจจุบันกรณีการร้องเรียนดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน อย่างไรก็ตาม หากร้านอาหารใดที่ไม่สามารถปรับตัว เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์การปรุงอาหารตามกฎหมายใหม่ ก็ไม่อาจดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจร้านอาหารเอเชียในอนาคต

แหล่งข่าว : nextshark.com

เครดิตภาพ : Getty Images