ภายหลังจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ สลากดิจิทัล (Digital Lottery) ผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ในราคา 80 บาท นั้น เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจ ที่ร้านแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ข้างธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดบ้านห้วย ถนนอุดรดุษฎี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากออกรางวัลในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 65 ไปแล้วว่ามีผลกระทบมากน้อยเพียงใด
โดยพบว่าแผงขายในตัวเมืองอุดรธานี ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง แต่ยังพอเดินหน้าขายต่อไปได้ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าประจำ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงวัยที่ไม่สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่น หรือไม่มีสมาร์ทโฟน และทางรัฐบาลและกองสลากเพิ่งเปิดขายผ่านแอพในงวดแรก ต้องคอยดูต่อไปในระยะยาว แต่ผู้ค้าที่ได้รับผลกระโดยตรงทันทีแบบเต็มๆ คือผู้ค้าที่ไปรับซื้อมาเดินเร่ขาย และผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่มีทุนน้อย อาจจะเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นแทน ในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่จากหลายๆ สถานการณ์
นายวิศรุต อภิชนบุตร อายุ 56 ปี พนักงานขายสลากฯ ร้านสลากนำโชค เปิดเผยว่า ข้อดีของสลากดิจิทัลคือซื้อง่าย สะดวกสบายสำหรับคนรุ่นใหม่ สามารถผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยรับรางวัลได้โดยตรง แต่ถ้าไม่ผูกบัญชีก็ไปขึ้นเงินเองที่กองสลาก ข้อเสียคือคนรุ่นเก่า ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ ลูกค้าสลากฯ ก็ยังคงเป็นขาประจำ ขาจรก็ยังคงมีมาหาซื้ออยู่บ้าง ลูกค้าทาง สปป.ลาว ก็ยังไม่มีเข้ามาหาซื้อ อาจจะเพราะเพิ่งจะเปิดประเทศ
“ถามว่าได้รับผลกระทบกับการซื้อสลากดิจิทัลหรือไม่ ก็ไม่เท่าไหร่ ยังพอไปได้ ของเรามีสลากฯ ให้เลือกซื้อจำนวนมาก เลือกหาจ่ายเงินก็จบ ก็ง่ายไม่ต่างกัน ยอดขายก็ยังปกติ ผู้ซื้อก็ไม่ได้สอบถามหาเรื่องสลากดิจิทัล แอพเป๋าตังเลย หากจะขายในราคาเท่ากับแอพเป๋าตังก็คงจะยาก เพราะซื้อมาในราคาที่แพงกว่า อีกอย่างเรามีเลขชุด ซึ่งลูกค้าจะชอบมากกว่า ในแอพเป๋าตังที่ไม่มีรูปแบบนี้ และหายากกว่า ลูกค้าหากมีเลขในใจ ถ้าเขาพอใจ เขาก็เต็มใจซื้อ”
นายมณู แซ่ตั้ง อายุ 68 ปี เจ้าของร้านขายสลากร้านโชคดำเนิน เปิดเผยว่า ได้ผลกระทบนิดหน่อย เพราะเราขายแต่เลขชุด การค้าซื้อสลากดิจิทัลก็เพิ่งจะเริ่ม ต้องประเมินอีกสักระยะก่อน ทุกวันต้องรับผิดชอบสลากที่ได้โควตามามากขึ้น หากขายไม่หมดก็ต้องรับผิดชอบไป ต้องเอามาลดราคาขายให้กับลูกค้าก่อนวันหวยออก หรือใกล้ถึงเวลาจะออกรางวัล งวดที่แล้วเหลือสลากเป็นแสนบาท แต่ก็ไม่ถูกสักใบเลย หลักๆ ของเราก็เป็นลูกค้าประจำ ได้รับผลกระทบน้อย จะว่าเรื่องเศรษฐกิจมาเกี่ยวข้องก็มีส่วน ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มขายสาลกมา 10 กว่าปี มีลูกค้าถูกรางวัลที่ 1 ประมาณ 10 กว่าราย ถูกมากที่สุดก็เป็นชาวเวียงจันทร์ สปป.ลาว ถูก 90 ล้านบาท ส่วนที่ได้รับผลกระทบในตอนนี้คือ ผู้ค้ารายย่อยที่เดินเร่ขาย ที่เคยมารับซื้อสลากฯ ต่อจากร้านตนไปขาย หายไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
น.ส.สิรินันท์ นวลคู่เขตโขง อายุ 42 ปี แม่ค้าสลากรายย่อยข้างรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ หน้าศาลหลักเมืองอุดรธานี กล่าวว่า ขายลอตเตอรี่เป็นอาชีพเสริมมาได้ประมาณ 1 ปี ทราบเรื่องการขายสลากดิจิทัลแล้ว ได้รับผลกระทบบ้าง กระทบมาตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดแล้ว บางครั้งลูกค้าก็บอกซื้อผ่านทางออนไลน์แล้ว สงสารคนเดินขายสลากฯ คนที่รู้จักกันที่เข้าเดินเร่ขาย ก็เคยบ่นให้ฟังว่าไม่ได้ขาย ลูกค้าหลายคนขณะนี้เขาซื้อผ่านเฟซบุ๊กและตามไลน์มาแล้ว ลูกค้าบางคนก็ถามว่าทำไมไม่ขายราคา 80 บาท เหมือนสลากดิจิทัล เราก็ตอบเขาว่ารับมาแพงแล้ว
“รับมากล่องหนึ่งก็ตกอยู่ที่ใบละ 92-93 บาท คิดว่าในอนาคตคนที่เดินเร่ขายอาจจะตกงาน แต่คิดว่าก็ต้องสู้กันต่อไป มีหลายคนที่เลิกขายไปทำงานอย่างอื่น ไปค้าขายอย่างอื่น เนื่องจากมีการขายออนไลน์มาสักพักแล้ว เพราะขายไม่ได้ สู้ต้นทุนไม่ไหว ส่วนตัวยังสู้อยู่ เพราะทุนน้อยรับมาขายงวดละ 1 กล่อง 500 ใบเท่านั้น ราคาก็ขึ้นลงไม่แน่นอน ตกใบละ 90 บาทขึ้นไปอยู่แล้ว”
