ปัจจุบันภัยไซเบอร์ขยายวงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะภัยคุกคามในภาคการเงินที่สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับลูกค้าธนาคารต่างๆ ล่าสุด ได้พบการหลอกลวงให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟน โดยคนร้ายจะแจ้งให้เหยื่อสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อรับเงิน ซึ่งโดยปกติแล้ว การสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยแอพพลิเคชั่นจะทำได้สำหรับการจ่ายเงินเท่านั้น ไม่สามารถรับเงินได้ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด หรือหลอกให้คลิกลิงก์หรือติดตั้งแอพ ที่แฝงมัลแวร์ลงบนสมาร์ทโฟน ซึ่งทำให้สามารถล้วงข้อมูลสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัญชีธนาคาร ข้อมูลยืนยันตัวตน เป็นต้น

พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์

“พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้แจ้งเตือนให้ลูกค้าและประชาชน ระวังกลโกงใหม่จากมิจฉาชีพที่จะหลอกโอนเงินจากแอพพลิเคชั่นเงินออกจากบัญชีจนหมดและอาจเป็นหนี้เพิ่ม โดยมีมิจฉาชีพ 3 รูปแบบใหม่ที่ต้องระวัง ได้แก่

1.หลอกว่า ได้รับเงินคืน โดยส่งคิวอาร์โค้ดให้สแกน มิจฉาชีพจะปลอมเป็นร้านค้าติดต่อมา โดยอ้างว่าสินค้าหมดและจะคืนเงินให้ โดยให้เหยื่อสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อรับเงินคืน หรือแจ้งว่า ได้รับรางวัลหรือเงินช่วยเหลือโดยให้สแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อรับเงินรางวัล เตือนว่าปกติจะไม่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อรับเงินผ่านแอพ มีแต่สแกนเพื่อจ่ายเท่านั้นและทุกครั้งที่สแกน ต้องสังเกตเลขที่บัญชีต้นทาง ปลายทาง จำนวนเงิน ก่อนกดยืนยันการโอนเสมอ

2.หลอกเหยื่อที่ต้องการใช้เงินสดด่วน ให้ใช้สินเชื่อที่มีอยู่จ่ายค่าสินค้าหรือบริการแทนไปก่อน แล้วจะจ่ายคืนให้เป็นเงินสด มิจฉาชีพจะบอกให้เหยื่อใช้สินเชื่อที่มีอยู่ไปชำระค่าสินค้าหรือบริการให้แทน โดยมีการตกลงว่าจะจ่ายคืนให้เป็นเงินสด แต่สุดท้ายเหยื่อไม่ได้ทั้งเงินคืนแถมเป็นหนี้ธนาคาร ขอแจ้งเตือนว่า สินเชื่อบุคคลบางประเภทไม่สามารถนำวงเงินไปเบิกถอนเป็นเงินสดได้ ควรตรวจสอบเงื่อนไขตามที่ตกลงไว้กับธนาคารโดยตรง

3.หลอกให้คลิกลิงก์หรือติดตั้งแอพแปลกๆ ด้วยการที่มิจฉาชีพได้ข่มขู่ หลอกให้เหยื่อกลัว โดยแจ้งว่าเหยื่อเข้าไปพัวพันคดี หรือมีอันตราย จำเป็นต้องติดตั้งแอพ บนสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ตรวจสอบ มีการส่งลิงก์ หรือคิวอาร์โค้ด หรือให้ดาวน์โหลดแอพ พร้อมหลอกให้บอกรหัส หรือตัวเลข ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในสมาร์ทโฟนได้ทั้งหมด ขอแจ้งเตือนว่า หากไม่เคยติดต่อหน่วยงานที่คนร้ายแอบอ้าง ให้ตัดบทสนทนาทันที อย่าไว้ใจหรือเชื่อคำพูดที่ลวงให้กระทำการใดๆ แม้เป็นคนรู้จัก รวมทั้งเช็กหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างเพื่อตรวจสอบข้อมูล

ขอให้โปรดระวัง “ตั้งสติ ไม่เชื่อ ไม่กด ไม่โหลดแอพ ไม่สแกน QR เพื่อรับเงิน” สามารถแจ้งเหตุได้ผ่านช่องทางแจ้งความออนไลน์ https://thaipoliceonline.com  หรือติดต่อ K-Contact Center 0-2888-8888

ทางด้าน “สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ” ได้แจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทสินเชื่อ ใช้กลโกงหลายรูปแบบผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ โทรศัพท์ และเอสเอ็มเอส เป็นต้น เพื่อหลอกให้ประชาชนโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก

โดยสมาคมฯ ยืนยันสมาชิกฯ ทุกราย ไม่มีนโยบายเรียกเก็บเงินหรือค่าธรรมเนียมในการอนุมัติสินเชื่อ และไม่มีนโยบายให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลทุกกรณี ซึ่งจะทำการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าและผู้ขอสินเชื่อผ่านสื่อช่องทางต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าผู้ขอสินเชื่อและประชาชนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

หากประชาชนท่านใดพบเจอการติดต่อเข้ามาหลอกให้โอนเงินด้วยวิธีการต่างๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง