มหาวิทยาลัยหนิงป่อ มณฑลเจ้อเจียง ออกแถลงการณ์บนเวยปั๋ว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน โดยแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแซ่หลี่ ได้พ้นสภาพบุคลการของหน่วยงาน หลังจากที่มหาวิทยาลัยพบว่า เขาโพสต์ความคิดเห็นในเชิงดูหมิ่นเหยียดหยามผู้หญิงบนพื้นที่โซเชียลมีเดียของเขา

ในแถลงการณ์ชี้แจงว่า หลังจากสืบสวนเหตุการณ์แล้วพบว่า หลี่ ได้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมในบัญชีผู้ใช้งาน ‘วีแชท’ ของเขาจริง ทางมหาวิทยาลัย จึงตัดสินใจที่จะให้ หลี่ พ้นสภาพการเป็นลูกจ้างโดยมีผลในทันที

ตามรายงานการสืบสวน หลี่ ได้ใช้ฟีเจอร์ ‘วีแชท โมเมนต์’ ของแอพพลิเคชั่นวีแชท ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารทางโซเชียลมีเดียยอดนิยมอีกช่องทางหนึ่งของชาวจีน โพสต์ข้อความกล่าวหาว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ก่อให้เกิดปัญหาและความยุ่งยาก โดยใช้การลาคลอดและเหตุผลเกี่ยวกับการดูแลครอบครัวเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำงาน เขายังแสดงความเห็นว่า ผู้หญิงควรมอบเงินเดือนของตัวเองให้ผู้ชาย รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเป็นการชดเชยให้เพื่อนร่วมงานชาย ที่ต้องทำงานเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเธอลาพัก

หลี่ ชี้ว่า ปัญหาหลักคือ ผู้หญิงไม่ควรทำให้เพื่อนร่วมงานชายต้องทำงานหนักขึ้น โดยอ้างความจำเป็นว่าต้องดูแลครอบครัวหรือเลี้ยงลูก ซึ่ง หลี่ มองว่าเป็นการเอาเปรียบและผู้หญิงไม่สมควรได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว และควรละอายใจที่ต้องให้เพื่อนร่วมงานชายมาทำงานแทนตัวเอง 

หลี่ โพสต์ต่อเนื่องว่า เขาอยากจะถามพวกผู้หญิงว่า ทำไมถึงไม่ให้เงินเดือนของตัวเองแก่เพื่อนร่วมงานชาย รวมถึงยอมมีเซ็กซ์ด้วย และให้ลูกของเธอเรียกเพื่อนร่วมงานชายที่ต้องทำงานแทนว่า ‘พ่อ’ เพื่อเป็นการชดเชย

นอกจากนี้ เขายังแสดงความเห็นว่าเพศชายนั้นมีสัญชาตญาณของการ ‘ข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง’ 

หลังจากที่โพสต์ของ หลี่ กลายเป็นไวรัลในสังคมโซเชียลมีเดียของจีน มหาวิทยาลัยหนิงป่อ ก็ประกาศในวันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย. ว่า เขาจะต้องโดนพักงานจนกว่าจะสืบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อย และวันต่อมา เขาก็โดนไล่ออก

หลังจากนั้น หลี่ ก็โพสต์ข้อความขอโทษบนบัญชีวีแชทของเขา โดยอธิบายว่าระหว่างที่โพสต์ข้อความเหล่านั้น เขากำลังมีอาการของโรคซึมเศร้า

ชาวเน็ตจีนที่ได้เห็นข้อความของ หลี่ ต่างแสดงความตกใจและวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงตำหนิ สมาชิกของเวยปั๋วรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ หลี่ เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ขณะที่ชาวเน็ตอีกรายชี้ว่า หลี่ ไม่เพียงแสดงความเหยียดหยามเพศหญิง แต่เขายังเป็นคนที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต และมหาวิทยาลัยควรจะส่งเขาไปรับการบำบัดเพื่อความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยเอง

แหล่งข่าว : nextshark.com

เครดิตภาพ : Getty Images