เรียกได้ว่ากำลังเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ภายหลังแฟนเพจชื่อดังอย่าง รับน้องสร้างสรรค์ระดับโคตรมหากาฬ ได้ออกมาเผยเรื่องรายราวกฎข้อห้ามน้องปี1 สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือ โดยรุ่นพี่ได้ส่งกฎไว้ว่า
“กฎข้อห้าม ปี 1 น้องผู้ชาย ทรงผมตัดทรงอะไรก็ได้ แต่ขอไม่ยาวเกินแล้วก็ไม่ย้อมสีนะคะ ถุงเท้าคุมข้อเท้า เวลามารับน้องเครื่องประดับห้ามใส่ ข้อมือทองหรือของมีค่า คัตชู/ผ้าใบสีขาวล้วนห้ามมีสี
น้องผู้หญิง ร้องเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ห้ามมีสีแม้แต่จุดเดียว เก็บหน้าม้านะคะ มัดผมรวบตึง ไม่เอียง ไม่ใส่ข้อสั้น สีขาวล้วนไม่มีลวดลาย คอนแทคเลนส์สีธรรมชาติ เวลามารับน้องเครื่องประดับห้ามใส่ข้อมือทองหรือของมีค่า ใส่เสื้อกล้ามทับก่อนใส่เสื้อ นศ. ยางรัดผมไม่ใช้แบบผ้า (ต้องสีดำ) กระโปรงพลีทคุมเข่า”
ซึ่งทำให้ผู้ปกครองรายหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณแม่ของเด็กปี1 ได้ตั้งข้อสงสัยถึงกฎดังกล่าวที่ถูกส่งมา จึงได้เข้ามาสอบถามรุ่นพี่ในกลุ่มของนักศึกษาปี 1 โดยได้สอบถามว่ากฎดังกล่าวนั้นถูกตั้งโดยใคร เนื่องจากกฎที่ตั้งนั้นไม่มีความสอดคล้องกับกฎของมหาวิทยาลัยเลย โดยกฎของมหาวิทยาลัยมีดังนี้ “นักศึกษาชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว ไม่มีลวดลาย ติดกระดุม 5 เม็ด มีกระเป้าที่หน้าอก เบื้องซ้าย เวลาสวมให้สอดชายเสื้อไว่ในกางเกงให้เรียบร้อย สวมกางเกงขายาวสีดำหรือสีกรมท่า ทรงสุภาพ ไม่มีลวดลาย ไม่รัดรูป มีหู เข็มขัดที่เย็บด้วยผ้าสีเดียวกับกางเกง ไม่พับปลายขา สวมเข็มขัดหนังสีดำ หัวเข็มขัดสีเงิน มีลายดุนนูนตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ผูกเนกไทสีน้ำตาล ปักข้อความ xxx ติดที่หนีบเนกไทตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย สวมรองเท้าหนังหุ้มส้นสีดำ ไม่มีลวดลาย ทรงสุภาพ
นักศึกษาหญิง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น ไม่มีลวดลาย ปลายแขนปล่อยตรง ไม่ผ่าปลายแขน เวลาสวมให้สอดชายไว้ในกระโปรงให้เรียบร้อย ติดกระดุมนูนตรา สัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ติดเข็มกลัดตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ที่อกเสื้อด้านซ้าย สวมเข็มขัดหนังสีต่ำ ห้วเข็มขัดสีเงิน มีลายดุนนูนตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย สวมกระโปงสีตำหรือสีกรมท่า ไม่มีลวดลาย ทรงตรง เอวสูง ผ่าปลายด้าน หลังแบบสุภาพ ไม่รัดรูป ความยาวเสมอเข่า สวมรองเท้าหนังหุ้มสีต่ำ ไม่มีลวดลาย ทรงสุภาพ เฉพาะนักศึกษาปีที่ 1 สวมรองเท้าผ้าใบหุ้มส้นสีขาว”
โดยในประกาศของมหาวิทยาลัยไม่มีข้อห้ามเรื่องทรงผมและสีผมทั้งชาายและหญิง ส่วนกฎที่รุ่นพี่ส่งมากลับมีกฎข้อห้ามอย่างเคร่งครัด ซึ่งพอคุณแม่รายนี้สอบถามไปนั้น รุ่นพี่ก็ได้มีการอ้างว่าเป็นกฎที่มีมานานแล้ว และคุณแม่ก็ได้ถามไปว่าหากมีมานานแล้วพอจะมีหนังสือแจ้ง และอธิบายถึงกฎดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งทางรุ่นพี่ก็ให้คำตอบว่าไม่มีหนังสือ หรือเอกสารใดๆ เนื่องจากเป็นกฎของสาขาวิชาที่ทางอาจารย์เป็นผู้ตั้งขึ้นเอง หากทางลูกของคุณแม่ไม่สะดวกทำตามกฎก็ได้ ไม่ได้บังคับ
ก่อนที่สุดท้ายรุ่นพี่จะอ้างว่าได้มีการคุยกับทางอาจารย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าลูกคุณแม่จะแต่งตัวอะไรก็ทำได้ตามสะบาย เดี๋ยวเปิดเทอมมาคุยกับอาจารย์ และอาจารย์รบกวนให้คุณแม่ออกจากกลุ่มของนักศึกษาปี 1 ด้วย ซึ่งทำให้คุณแม่งุนงงเพราะยังไม่เคลียร์เรื่องคำถามที่ถามไป รวมทั้งยังไม่ทราบชื่ออาจารย์ที่ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ด้วย จนสุดท้ายแม่ได้ยื่นคำขาดว่าจะขอจากกลุ่มเอง พร้อมทั้งจะนำเรื่องดังกล่าวออกมาโพสต์ลงสื่อโซเชียลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย..
