จากกรณีกระแสข่าว “แม่แตงโม” หรือ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน เปลี่ยนใจไม่คิดที่จะยื่นฟ้องการฆาตกรรมคนบนเรือ ในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ได้เห็น โดยคุณแม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการหนึ่งว่า เครียดกับคดีของลูกสาว ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ได้เห็น พบว่ามีแค่ภาพ คลิปเสียง เป็นข้อมูลเบื้องต้น ค่อนข้างมีน้ำหนักน้อย ไม่มีความเชื่อมโยง ถึงขั้นที่ชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรมได้ เนื่องจากตนเองเป็นคนที่สามารถยื่นฟ้องได้เพียงคนเดียว และหากยื่นฟ้องไป น้ำหนักของพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ตนติดคุกเพียงคนเดียวได้ โดยที่ไม่มีใครมาช่วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการดูแลคดีทั้งนักกฎหมาย ทนายความและที่ปรึกษาคุณแม่ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าวว่า “การดำเนินคดีอาญาในการฟ้องตรง เราจะมีการประชุมทีมงาน สรุปรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมด ทั้งพยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดแผล ยา กล้องวงจรปิด และอีกหลายส่วนที่เกี่ยวกับคดีแตงโม ในช่วงเย็นวันที่ 14 มิ.ย. และจะมีทีมกฎหมายทั้งหมด 3 ทีม คือ ทีมอัจฉริยะ, ทีมพรรคไทยศรีวิไลย์ และทีมชนบท ศุภศรี โดยจะมีการตรวจร่างคำฟ้อง และจะถกประเด็นนี้กันอีกรอบ

โดยวันที่ 13 มิ.ย. นายอัจฉริยะจะไปปรึกษาอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งจะเป็นคนตรวจร่างคำฟ้องว่าทางคดีอาญาจะฟ้องมาตราไหนดี ระหว่างจะฟ้อง 289 ฆาตกรรม หรือฟ้อง 290 ที่เป็นการทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งต้องดูคำพิพากษาของศาลฎีกาให้รอบคอบ ส่วนพยานเรื่องบาดแผลใบพัด เราได้ประชุมกันแล้ว แต่ยังไม่ได้ประชุมเรื่องสำนวน ซึ่งวันนั้นประชุมหลายชั่วโมง เกรงว่า แม่แตงโม จะรับข้อมูลมากๆ เลยไม่อยากให้มา เพราะแม่ยังอยู่ในช่วงเศร้า และขอยืนยันว่าฟ้อง 100% ส่วนมาตราไหนอีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การฟ้องกลับ มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ถามว่าจำเลยฟ้องกลับได้ไหม สามารถฟ้องกลับได้ แต่สุดท้ายก็ต้องรอคดีหลัก เพราะฉะนั้นเราต้องรอบคอบ เพื่อให้แม่ปลอดภัย และการเบิกความครั้งนี้ อัจฉริยะเป็นคนเบิกความแทนแม่ทั้งหมด ส่วนตนเป็นพยาน ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป”..

ขอบคุณคลิป : มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์