เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะชุดจับกุมดำเนินคดีสองพ่อลูก คือ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ จากพรรคภูมิใจไทย กับพวกที่เป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินรวม 10 คน กรณีบุกรุกออกโฉนดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขต จ.ปราจีนบุรี ว่า คดีนายสุนทรและนางกนกวรรณ ต้องแยกเป็น 2 คดี โดยคดีแรกคือคดีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ เกิดขึ้นในปี 45 ป.ป.ช. รับไปดำเนินการ และไปย้อนดูว่าโฉนดออกปีไหน ปรากฏว่าออกในปี 45 มีนายสุนทร และนางกนกวรรณนำชี้ และมีเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าป่าไม้ รวม 10 คน ร่วมออกเอกสารสิทธิ ซึ่งถือว่ามีความผิดทั้งหมด โดยคดีนี้จะหมดอายุความในวันที่ 13 มิ.ย.65 เป็นเฉพาะในส่วนคดีของนายสุนทร แต่ของนางกนกวรรณจะหมดอายุความในเดือน ก.ค.65 เพราะเป็นเอกสารสิทธิคนละฉบับ ถ้าไม่สามารถนำตัวนายสุนทรมาส่งฟ้องได้ คดีจะขาดอายุความจริง แต่นายสุนทรยังมีคดีบุกรุกป่าอีก 1 คดี ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมในปี 60 และ 63 ถ้านายสุนทรจะหนีก็ต้องหนีอีกเกือบ 20 ปี เช่นเดียวกับนางกนกวรรณ ก็โดนคดีบุกรุกป่านเหมือนกัน

โดยปี 63 จับกุมตรวจยึดอีก 2 ส่วนคือ 1.คดีบุกรุกใหม่ ออกนอกโฉนดเข้าไปในเขตเขาใหญ่ ตรวจยึด 7 แปลง พื้นที่รวม 24 – 1 – 88 ไร่ คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของอัยการสูงสุด (อัยการจังหวัดปราจีนฯสั่งไม่ฟ้อง) 2.การออกโฉนดโดยมิชอบ 3 แปลง ส่งป.ป.ช.ดำเนินการ

“คดีบุกรุกป่าเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับนายสุนทรและนางกนกวรรณ ในข้อหาบุกรุกอุทยานฯ เขาใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 คน เอาโฉนดมาแสดง แต่เป็นโฉนดที่ออกโดยมิชอบ แถมยังบุกรุกเพิ่มด้วย จึงโดนข้อหาบุกรุกป่า ดังนั้นต้องแยกเป็น 2 คดี นายสุนทรและนางกนกวรรณ ไม่พ้นผิดในคดีการบุกรุกป่าและออกโฉนดโดยมิชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว แม้คดีนายสุนทรจะหมดอายุความในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ แต่ยังมีคดีบุกรุกป่าอีก 1 คดีรออยู่ ซึ่งจะครบอายุความในปี 83 ถ้านายสุนทรจะหนี ต้องหนีให้รอด” พ.อ.พงษ์เพชร กล่าว