นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ (14-21 มิ.ย.) อีก 1 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาดีเซลขึ้นไปอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. นี้ เนื่องจากต้นทุนราคาตลาดโลก ประกอบกับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด วันที่ 12 มิ.ย. ติดลบแล้ว 91,089 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 54,574 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจี 36,515 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นล่าสุด 34.94 บาทต่อลิตร หรือไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร ถือเป็นราคาสูงสุดตามเพดานไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร อยู่ภายใต้มาตรการรัฐบาลในการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล 50% มีระยะเวลานาน 3 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. ส่วนเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป กระทรวงพลังงานกำลังหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม

“ตอนนี้ยังต้องติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกซึ่งหากอยู่ระดับนี้ก็ยังพอมีเงินสภาพคล่องช่วยได้อยู่ ก็น่าจะพอไหวแต่ทั้งนี้อยู่ที่ราคาตลาดโลก อย่างไรก็ตามมติครม. 22 มี.ค. ได้กำหนดมาตรการอุดหนุนคนละครึ่งและประชาชนรับภาระครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากสะท้อนมาตรการดังกล่าวเวลานี้ดีเซลจะต้องขึ้นไปอยู่ที่ 37 บาทต่อลิตร ”

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธสาสตร์ สกนช. กล่าวว่า กบน.จำเป็นต้องปรับดีเซลขึ้นจากปัจจัยที่ราคาน้ำมันค่อนข้างแกว่งตัวและมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงปลายสัปดาห์ที่มีการปรับขึ้นแรง เนื่องจากแนวโน้มฟื้นตัวเนื่องจากสหรัฐมีเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงจีนจะเปิดประเทศแม้ว่าซาอุดิอาระเบียจะมีการเพิ่มอัตรากำลังการผลิตแต่ก็ยังไม่สามารถฉุดราคาไว้ได้ โดยเฉพาะ 10 มิ.ย.ราคาดีเซล ตลาดโลกมีการปรับขึ้นสูงถึง 172.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งถือว่าแกว่งตัวสูงมาก

“ กรณีค่าการกลั่นทางกระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาอยู่ เราจึงยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งบทบาทเข้าใจว่ากระทรวงฯต้องดูให้ครบทุกมิติ ทั้งกฏหมายและความเป็นธรรม “นายพรชัยกล่าว