เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา อดีตทนายความนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาวแตงโม ได้มีการอัปโหลดคลิปวิดีโอโพสต์บนเพจดังกล่าว ความยาวประมาณ 0.57 นาที โดยทนายเดชา ได้มีการกล่าวในคลิประบุว่า “ตนอยากฝากให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ กล่าวขอโทษต่อประชาชน กรณีอ้างว่าแตงโมถูกฆาตกรรม จนมาถึงตอนนี้เป็นที่ยุติแล้วว่าทั้ง นายอัจฉริยะและนายมงคลกิตติ์ ไม่มีพยานหลักฐานใดที่จะยืนยันว่าคนบนเรือได้ฆ่าแตงโมตายแต่อย่างใด ส่วนข้อกล่าวอ้างที่อ้างว่ารู้ชัดว่าใครเป็นคนฆ่า มีพยานหลักฐานชัดเจนว่าคนบนเรือเป็นคนกรีดขาแตงโมจนเลือดหมดตัว หลังจากนั้นผลักตกเรือ เป็นความเท็จทั้งสิ้น ตนจึงขอให้ทั้งนายมงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะออกมาขอโทษประชาชนได้แล้ว”

ในคดีนี้หากย้อนไปเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในการดูแลคดีทั้งนักกฎหมาย ทนายความและที่ปรึกษานางภนิดา ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กบัญชีส่วนตัว และกล่าวถึงการดำเนินคดีอาญาในการฟ้องตรง โดยระบุว่า ในช่วงเย็นวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมทีมงาน สรุปรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมด ทั้งพยานบุคคล พยานนิติวิทยาศาสตร์ พยานผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวข้องกับเรื่องบาดแผล ยา กล้องวงจรปิด และอีกหลายส่วนที่เกี่ยวกับคดีแตงโม รวมถึงจะมีทีมกฎหมายทั้งหมด 3 ทีม คือ ทีมอัจฉริยะ, ทีมพรรคไทยศรีวิไลย์ และทีมชนบท ศุภศรี โดยจะมีการตรวจร่างคำฟ้อง และจะถกถึงประเด็นการยื่นฟ้องตรงการฆาตกรรมคนบนเรือ

‘อัจฉริยะ’ ยัน ‘แม่แตงโม’ ไม่ฟ้องคดีฆาตกรรม ไม่จริง! ชี้คุณแม่ถูกขู่จนเครียด

‘ส.ส.เต้’เคลียร์ชัดๆ ‘แม่แตงโม’กลับลำ บอกไม่ฟ้องคนบนเรือหวั่นจะติดคุก

ขณะที่ นางภนิดา ได้ออกมาเปิดเผยกับรายการข่าวชื่อดังแห่งหนึ่งว่า เปลี่ยนใจไม่คิดที่จะยื่นฟ้องการฆาตกรรมคนบนเรือ ในฐานะผู้เสียหายเพียงคนเดียว ด้วยหลักฐานหรือข้อมูลที่ได้เห็น เนื่องจากพบว่ามีแค่ภาพ คลิปเสียง เป็นข้อมูลเบื้องต้น ค่อนข้างมีน้ำหนักน้อย ไม่มีความเชื่อมโยง ถึงขั้นที่ชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรมได้ จึงกลับไปคิดทบทวน ว่าหากนางภนิดา เข้าไปยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงคนเดียว อาจจะส่งผลเสียในอนาคต ถ้าน้ำหนักของพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ติดคุกเพียงคนเดียวได้นั้น

โดยนายมงคลกิตติ์ ยังได้ระบุอีกว่า “การฟ้องกลับไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ถามว่าจำเลยฟ้องกลับได้ไหม สามารถฟ้องกลับได้ แต่สุดท้ายก็ต้องรอคดีหลัก เพราะฉะนั้นเราต้องรอบคอบ เพื่อให้แม่ปลอดภัย และการเบิกความครั้งนี้ อัจฉริยะเป็นคนเบิกความแทนแม่ทั้งหมด ส่วนตนเป็นพยาน ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไป ซึ่งอาญาเรากำลังคำนวนอยู่ว่าจะฟ้อง 289 ฆาตกรรม หรือฟ้อง 290 ที่เป็นการทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งต้องดูคำพิพากษาของศาลฎีกาให้รอบคอบ ส่วนพยานเรื่องบาดแผลใบพัด เราได้ประชุมกันแล้ว แต่ยังไม่ได้ประชุมเรื่องสำนวน ซึ่งวันนั้นประชุมหลายชั่วโมง เกรงว่า แม่แตงโมจะรับข้อมูลมากๆ เลยไม่อยากให้มา เพราะแม่ยังอยู่ในช่วงเศร้า และขอยืนยันว่าฟ้อง 100% ส่วนมาตราไหนอีกเรื่องหนึ่ง”

ขอบคุณข้อมูล เพจ “ทนายคลายทุกข์ และ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์”