หลังจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะหมาก และ อบต.เกาะหมาก จ.ตราด ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเกาะขายหัวเราะ ภายหลังปรากฏเป็นข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวเข้าไปโหน นั่ง และโน้มกิ่ง และทำให้กิ่งหักรากถูกเหยียบจนได้รับความเสียหายนั้น

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายเลิศรบ สายทองพู่ ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.เกาะหมาก ได้นำสื่อมวลชนเดินทางจากหาดคลองสน ต.เกาะหมาก เพื่อขึ้นเรือไฟเบอร์เดินทางไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาเดินทางไป 30 นาที โดยพบน้ำทะเลท่วมเลยโคนต้นตะบันเเล้ว เหลือเพียงรากที่โผล่ขึ้นมาเล็กน้อย สภาพของต้นตะบัน ซึ่งมีกิ่งด้านในหัก และกิ่งเล็กหลายกิ่งมีสภาพหักหายไป และรากด้านบนถูกเหยียบจนเปลือกเสียหาย เหลือเพียงเนื้อไม้อย่างเดียว ส่วนใบร่วงและมีสีเหลืองปนเขียว และเมื่อมาตรวจด้านนอกที่เป็นรากขนาดใหญ่พบว่า รากเสียหายบางส่วนและมีรากบางส่วนงอกขึ้นมาทดแทนที่มีสีแดง รวมทั้งลำต้นเอนลงไปกว่าปกติที่เคยเป็นอยู่เดิมในช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ก่อนจะมีการโปรโมต และประชาสัมพันธ์

นายเลิศรบ กล่าวว่า สภาพของต้นตะบันในวันนี้ เทียบกับเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ยังไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จักนั้น ต้นยังมีสภาพที่ดี กิ่งอยู่ครบและต้นไม่เอียง รากจะสมบูรณ์ มีเปลือกหุ้ม แต่วันนี้สภาพต้นเสียหายทั้งด้านทิศตะวันตก เสียหายเพราะกิ่งหัก และใบร่วงหล่นไปบางส่วน มีกิ่งเล็กๆ โดนตัดไป ยาวประมาณ 1 ศอก บริเวณเปลือกของต้นตะบันด้านบนยังสมบูรณ์แต่บริเวณโคนต้นไม่มีเปลือกหุ้มแล้ว แสดงว่าได้รับความเสียหายจากการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว และการขึ้นไปปีนจนกิ่งใหญ่ได้รับความเสียหายไป ซึ่งส่งผลต่อความเเข็งแรงและความอยู่รอดของต้นตะบัน และโคนรากดำๆ นั้นไม่ทราบตายหรือไม่ เพราะปกติรากจะเจาะลึกลงไปในหิน เพราะเวลาน้ำแห้งรากจะอยู่ในสภาพอย่างไร

“วันนี้สภาพรากปกติที่มีเปลือกนอกหุ้ม ขณะนี้ไม่มีแล้วเหลือเพียงเนื้อของรากเท่านั้น ขณะที่อีกด้านหนึ่งซึ่งจะพบว่าที่โคนต้นนั้น มีสภาพที่ทั้งเสียหายและรากที่เริ่มงอกขึ้นมาใหม่ แสดงว่า ต้นตะบันก็เริ่มปรับตัว ซึ่งหากเรายังปล่อยมีการท่องเที่ยวในสภาพนี้ต้นตะบันไม่น่าอยู่รอด จึงควรที่จะจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าชม หรือการเข้าชมเป็นฤดูกาล รวมทั้งต้องรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวรู้จักการอนุรักษ์และดูแลแหล่งท่องเที่ยวด้วย ไม่ใช้การปีนป่ายเข้าไป เพราะเกาะขายหัวเราะรองรับนักท่องเที่ยวได้แค่ 5 คนเท่านั้น เมื่อไปอยู่บนเกาะ” ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.เกาะหมาก กล่าว

ขณะที่นายเสวย กาญจนชาติ เจ้าของเรือนำเที่ยวชทชมเกาะขายหัวเราะ บอกว่า เวลาที่นำนักท่องเที่ยวมาชมเกาะ จะพบว่า นักท่องเที่ยวจะเข้าไปถ่ายรูปและโน้มน้าวกิ่ง ปีนขึ้นไป ได้พยายามขอความร่วมมือแล้ว บางคนเข้าใจ และปฏิบัติตาม บางคนไม่เข้าใจและไม่สนใจ

ส่วนนายดิษพงษ์ อิ่มบุญ เจ้าของเรือนำเที่ยวอีกคน กล่าวว่า วันนี้กลุ่มเรือประมงนำเที่ยวของเกาะหมาก มีรายได้จากการนำส่งนักท่องเที่ยวไปชมเกาะขายหัวเราะคนละ 200 บาท และอยากฝากนักท่องเที่ยวขอให้ช่วยกันดูแลและปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือข้อตกลง เพื่อให้ต้นตะบันยังคงอยู่ เพื่อเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวของเกาะหมากต่อไป

ด้านนายอิษฎา ระบุว่า วันนี้ทาง ททท.สำนักงานตราด คงจะต้องมาทบทวนในเรื่องของการส่งเสริมจุดขายทางการตลาดใหม่ของเกาะขายหัวเราะ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสำนึกในเรื่องการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะหารือกับสำนักพิมพ์บันลือสาส์นเพื่อสร้างเรื่องราวใหม่ของต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกร่วมในการรักษาแหล่งท่องเที่ยว และจะร่วมมือกับหน่วยงานอื่นในการอบรมเทรนเนอร์ เพื่อให้ชุมชนที่เข้ารวมอบรมสร้างเรื่องราวและเล่าเรื่องของเกาะขายหัวเราะในมุมมองใหม่ให้กับแหล่งท่องเที่ยวของเกาะหมากด้วย รวมทั้งการสร้างกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น ให้นักท่องเที่ยวเป็นจิตอาสาด้วยการการปลูกประการัง และหญ้าทะเล เมื่อทำแล้วก็ให้เข้ามาสัมผัสเกาะขายหัวเราะได้ ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ดี รวมทั้งขณะนี้ ทาง ททท.สำนักงานตราด ได้ขึ้น แฮชแท็ก #saveเกาะขายหัวเราะ แล้ว.