กรณีปัญหาการร้องเรียนทุจริตฉ้อโกงเงินรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล โดย พลเอกกะสิณ ทองโกมล นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักคนพิการไทย ร้องเรียน นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า ทุจริตฉ้อโกงเงินรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาลของสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งอ้างมูลค่าความเสียหายกว่าสองพันล้านบาท ต่อ คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร นั้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา ห้อง CA416 นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย ที่ปรึกษา สมาคมคนพิการฯ พร้อมคณะ เข้าชี้แจง ปัญหาดังกล่าว ต่อ คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร โดยมี ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ กมธ.กีฬาฯ ที่ปรึกษาฯ รับฟังคำชี้แจง

ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ นายชูเกียรติ พร้อมที่ปรึกษาฯ อธิบายสิ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสลากฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีปัญหาการทุจริตฉ้อโกงเงินรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน รวม 144 งวด โดยเฉพาะประเด็นเงินเปอร์เซ็นต์ 2% ที่ต้องเข้าสมาคมฯ และเงินส่วนต่าง รวมไปถึง สลากฯ ต่องวด 12,000 เล่ม หรือ 1,200,000 ฉบับ ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ถึงมือนักกีฬาคนพิการฯ โดยมี ส.ส.เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล โฆษก กมธ.กีฬา, ส.ส.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เลขาฯ กมธ.กีฬาฯ, ส.ส.วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ รอง ป.กมธ.กีฬาฯ, ส.ส.ปริญญา ช่วยเหตุ คีรีรัตน์ โฆษก กมธ.กีฬาฯ สลับกับสอบถาม

นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าในการดูแลผู้พิการฯ โดยสมาคมฯ เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส ไม่มีการทุจริตใดๆ และสามารถที่จะให้ตรวจสอบ และว่า การบริหารสลากฯ ดังกล่าว โควตาการจ่ายสลากฯ เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งในปลายปี 2559 หมายถึง มีการจัดสรรโควตาและส่งรายชื่อเข้ากองสลาก ก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งก็ทราบเพียงว่า มีการรับสลากฯ จริง ในแต่ละงวด งวดละ 12,014 เล่ม ในจำนวนนี้ ตามข้อตกลงที่ผ่านที่ประชุมใหญ่มา จะมอบให้ ทาง สมาคมฯ บริหารจัดการจำนวน 2% โดยจะหักเอาไว้ 1% และอีก 1% จะหักส่งคืนให้กับทางผู้ค้า ซึ่งสามารถทำการตรวจสอบที่ปรากฏตามงบดุลของสมาคมได้ ในส่วนของสลากฯ ที่ได้มานั้น จะส่งต่อหรือส่งผ่านไปยังที่ใด ก็ต้องขอตรวจสอบก่อนเพราะโควตานี้เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง


“ตนยืนยันว่าสิ่งที่ทำทุกอย่างโปร่งใส พร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ เพราะการทำงาน สมาคมฯ ยืนผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลัก และการเข้ามาชี้แจงในครั้งนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้มาอธิบายแลกเปลี่ยนและทราบถึงวิธีการซึ่งก็พร้อมที่จะชี้แจงกับทาง ฝ่ายนิติกร กกท. เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน”

ด้าน ส.ส.วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ รอง ป.กมธ.กีฬาฯ กล่าวว่า ในการชี้แจงส่วนตัวเห็นว่ายังฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะเงินส่วนต่าง เพราะจำเป็นที่จะต้องลงรายละเอียด เพราะส่วนต่างที่หักมองว่า เมื่อส่วนต่างจากการรับสลากมีอยู่แล้ว ทำไมต้อหักอีก 1% ให้กับคู่ค้าอีก ทำไมไม่หักเอาไว้ใน สมาคมฯ เพื่อบริหารจัดการเอง

ด้าน ส.ส.ปริญญา ช่วยเกตุคีรีรัตน์ โฆษก กมธ.กีฬาฯ กล่าวว่า การชี้แจงพอเข้าใจว่าเงินจำนวน 2% นั้นมีการหักหรือมีที่ไปที่มาอย่างไร แต่สิ่งที่สงสัยและต้องการคำตอบนั้นคือ การที่แจ้งว่ามีการส่งสลากฯ ไปยังสมาชิกนั้น สมาชิกที่ว่านั้นเป็นใคร เป็นนักกีฬาหรือไม่ เพราะนักกีฬาทีมชาติ ปัจจุบัน มีไม่ถึง 500 คน ซึ่งนักกีฬาจำนวนนี้ได้สลากฯ หรือไม่ เพราะเชื่อว่าทุกคนคงเป็นสมาชิกสมาคมฯ

ด้าน ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ป.กมธ.กีฬาฯ กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า การชี้แจงถือว่าเป็นประโยชน์แต่ยังคงต้องมีการพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส และปัญหาวันนี้จึงไม่สรุป แต่จะขอให้ ทาง นายชูเกียรติ ไปจัดหาเอกสารมาประกอบเพื่อที่จะเข้ามาชี้แจงในคราวต่อไป เนื่องจาก กมธ.กีฬาฯ ได้กำหนดผลตรวจสอบ ระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายในกำหนด 30 วัน นับจากวันที่ 9 มิถุนายนนี้ จึงขอให้นำรายชื่อผู้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 12,000 เล่ม มาแจ้งเป็นรายลักษณ์อักษร ว่าใครเป็นผู้รับสลากฯ ไปจำหน่ายและเป็นสมาชิกจริงหรือไม่ และให้ตอบคำถามเกี่ยวกับการหักเปอร์เซ็นต์ให้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสในการจัดสรรโควตาที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้พิการต่อไป.