เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ ผกก.สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่รับฟังความเห็นผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนในซอยตลาดศรีวานิช บริเวณใกล้เคียงกับใต้ทางด่วนดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางเมือง

พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า สำหรับการชุมนุมช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน) ได้มีการทำกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งสถานการณ์ปกติดี เป็นการรวมตัวกันไม่ถือเป็นการก่อเหตุความไม่สงบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. กลุ่มมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้พยายามเคลื่อนตัวไปบ้านพักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงยังมีการใช้ป้ายผ้าที่มีข้อความไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการจับกุมผู้ใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บบางส่วน ต่อมาประมาณ 22.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการใช้ประทัดยักษ์ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาแนวอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น โดยผลการก่อเหตุดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บประมาณ 12 ราย และมีทรัพย์สินของราชการเสียหายบางส่วน อย่างไรก็ตามยังมีการนำข้อมูลไปบิดเบือนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ซึ่งหากดูเหตุการณ์ให้ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามผลักดันผู้ชุมนุมกลับไปยังพื้นที่ที่ควบคุมได้ ซึ่งสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมไม่ได้ คือการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ และสัญจรในบริเวณดังกล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น การใช้ยุทธวิธีของตำรวจนั้นมีตั้งแต่เบาไปหาหนัก เช่นการเจรจาประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้มาเสมอ แต่อาจมีบางส่วนที่มีแนวคิดที่จะป่วนบ้านเมือง ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้น เมื่อเจรจาต่อรองแล้วไม่เป็นผล ก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินการ การใช้อุปกรณ์ในการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นเหตุเป็นผล ว่าเมื่อไรจึงควรใช้กระสุนยาง เมื่อไรควรใช้แก๊สน้ำตา เมื่อไรควรใช้ปืนฉีดน้ำ โดยเป็นการป้องกันตนเองก่อน และอีกส่วนคือการป้องกันความเสียหายขยายวงกว้างซึ่งไม่สามารถบอกเป็นสูตรตายตัวได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามป้องกันและลดทอนความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงลดทอนอาวุธที่อาจถูกนำมาก่อเหตุ ดังจะเห็นได้จากเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา จุดตรวจจุดสกัดสามารถตรวจยึดอาวุธจำพวกระเบิด หนังสติ๊กลูกหินลูกแก้วได้จำนวนมาก และได้มีการดำเนินการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือถูกชักจูงมา แล้วกลับกลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดี หรือบางรายได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า การที่มีเจตนาออกมาเรียกร้องทางการเมืองนั้นมีวิถีทางที่ชัดเจนและสามารถทำได้ เช่นการออกมาจัดทำแคมเปญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามเข้าใจ แต่หากไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และมีการนำอาวุธมาใช้ ตนก็คิดว่าคงไม่ใช่การเรียกร้องทางการเมือง สำหรับผู้ก่อเหตุนั้น ในทางการข่าว เชื่อว่ามีทั้งผู้ที่เคยก่อเหตุ และกลุ่มใหม่

ส่วนในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ที่จะมีการชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว และเคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงพลังงานนั้น ได้มีการเฝ้าระวังในจุดที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว รวมถึงจัดกำลังไว้รับมือ คงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เลยเถิด โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ฝากไปยัง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ให้ดูแลประชาชนให้ดี ให้เอาประโยชน์ของประชาชนและสาธารณะเป็นหลัก ตำรวจจะบาดเจ็บก็ไม่เป็นไร แต่ประชาชนต้องไม่ได้รับความเดือดร้อน อย่าคิดว่าการที่ตำรวจออกมานั้นเพื่อปราบปรามอย่างเดียว แต่ออกมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ยืนยันว่าการตั้งจุดตรวจสกัดนั้นตำรวจทำอยู่แล้วแม้ไม่มีเหตุอะไร ทั้งนี้หากมีเหตุอะไร สามารถแจ้งมาได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 191 หรือหมายเลข 1599 ซึ่งทราบว่าทาง ผบช.น. ได้ดำเนินการในส่วนนี้มาก่อนแล้ว อยากให้เชื่อมั่น และหากมีข้อเสนอแนะอะไรตำรวจก็ยินดี