เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการประกาศปลดล็อกเรื่องกัญชา ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 6 เป็นต้นมา จ.ศรีสะเกษ ยังไม่มีรายงานเรื่องการเสพ หรือการใช้กัญชาและทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายประชาชนที่มาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทุกแห่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางกัญชาที่ใช้ทางการแพทย์ ที่มีการปลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นพ.ทนง กล่าวว่า ตอนนี้ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการเฝ้าระวังร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีความห่วงใยมาว่า ประชาชนอาจจะมีการนำเอากัญชาไปเสพไปใช้ในลักษณะเพื่อการสันทนาการ จริงๆแล้วหลักการนำกัญชามาใช้จะต้องเป็นทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อรักษาโรคปลูกที่บ้านเพื่อใช้กับคนป่วยที่บ้าน ถามว่ามีการนำเอากัญชาไปเสพเพื่อการสันทนาการมีหรือไม่ ก็อาจจะมีแต่ว่าก็อาจจะยังไม่เป็นพิษถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

“ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ เกี่ยวกับเรื่องกัญชานี้แม้ว่าจะมีการปลดล็อกกัญชาถูกกฎหมายแล้ว วัตถุประสงค์หลักเราเน้นว่า เรื่องกัญชาไม่ได้ถูกกำหนดว่าเป็นยาเสพติดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามความเป็นจริงแล้วมันก็ยังคงมีสาร THC อยู่ในช่อดอกซึ่งมีสาร THC สูงพอสมควร จึงไม่อยากให้นำเอาไปใช้ในเชิงสันทนาการ เพราะว่าอาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักการว่าเสพเท่าไหร่ปลอดภัย เสพเท่าไหร่ไม่ปลอดภัย อย่างเช่นเอาไปสูบหรือนำเอาไปเป็นบุหรี่สูบหรือว่าเอาไปใส่ในอาหาร โดยเฉพาะส่วนที่เป็นช่อดอกก็มีความเสี่ยงที่จะได้สาร THC ที่อยู่ในกัญชาปริมาณสูงซึ่งจะมีผลต่อร่างกาย ให้เน้นใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อการรักษาโรค และจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต. โรงพยาบาลทุกแห่ง เพราะว่าเรามีคลินิกกัญชาสามารถที่จะขอคำปรึกษาได้ทุกแห่งอยู่แล้ว” นพ.ทนง กล่าว