จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้ติดตามจับกุม นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง รวม 4 ศพ ทิ้งท้ายรถยนต์ ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทย ล่าสุด ศาลอาญาอนุมัติจับนายสันติ ในคดีฐานฆ่าผู้อื่น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จุดตรวจฝาง เข้าตรวจสอบภายในบ้านพักเลขที่ 587 ในหมู่บ้านใหม่หนองบัว ชุมชนชาวจีน ในอำเภอไชยปราการ ที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน หรือ อาเสิง ผู้ต้องหาฆ่า 2 ศพที่ไต้หวัน และหลบหนีเข้ามาในไทย โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบราวๆ 30 นาทีก่อนเดินทางกลับ

ฆ่าโหด “ผัว-เมีย”ชาวไทยในไต้หวัน ตาย4ศพรวมลูกแฝดในท้องซุกรถหรู

ร.ต.อ.เอกรัชทร ทักขิณะ รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ หัวหน้าจุดตรวจฝาง เปิดเผยว่า วันนี้ที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นการตรวจสอบ ตามขั้นตอนหลังมีการออกกมายจับนายสันติ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเพียงน้องชาย ของนายสันติเพียงคนเดียว ส่วนพ่อออกไปธุระ ซึ่งแจ้งกับทางตำรวจว่า หลังจากนายสันติกลับมาบ้านในคืนวันที่ 9 มิถุนายน จากนั้นไปส่งลูกที่โรงเรียนจีนในหมู่บ้านช่วงเย็นวันที่ 10 มิ.ย. ก็หายตัวไปโดยไม่สามารถติดต่อได้เลย

ขณะที่ นายวิญญู แซ่หย่าง ผู้ใหญ่บ้านใหม่หนองบัว ซึ่งเป็นอาของอาเสิง บอกว่า ครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้หลานชายมอบตัว และออกมาพูดความจริง และอยากให้สังคมมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลเท่านั้น แม้ทั้งผู้ต้องหาและคนในหมู่บ้านจะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันทั้งสองคน แต่คนในหมู่บ้านก็ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ยังรักสามัคคีเพราะเป็นเรื่องเฉพาะคน ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด ส่วนที่มีคนมองว่า ตนเองเป็นผู้นำหมู่บ้านอาจจะเข้าข้างหลานชาย หรือช่วยในการหลบหนี ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนที่มีอิทธิพลอะไร เป็นผู้ใหญ่บ้านมา 11 ปี ไม่เคยข่มขู่มีแต่ทำงานให้ด้วยใจ และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน